มรสุมที่พรรคก้าวไกล ต้องเผชิญข้างหน้า ย่อมหนักหนาสาหัสมากไปกว่าการถูก ยุบพรรค คือการที่จะเหลือ ขุนพล และ ทหาร กี่คน ที่จะย้ายไปอยู่ บ้านหลังใหม่ ที่ได้ตระเตรียมกันเอาไว้ ! 


 เพราะการยุบพรรคสำหรับก้าวไกล นั้นยังไม่น่ากลัว เท่ากับ อาฟเตอร์ช็อค ที่จะเกิดตามมา อันจะส่งผลต่อ ผู้เล่น แถวที่สองให้ต้องหมดไปจากกระดาน แม้ แกนนำพรรคก้าวไกล หลายคนต่างประสานเสียงด้วยความมั่นใจว่า แม้พรรคจะถูกยุบอีกกี่ครั้ง แต่ อุดมการณ์ และ คะแนนนิยม ที่เคยมียังคงอยู่ และยังมีแนวโน้มว่า จะยิ่งทวีมากขึ้น ด้วยความเห็นใจ จาก ด้อมส้ม และผู้คนที่ยืนอยู่ข้างพรรค 


 แต่ในความเป็นจริงแล้ว หากพรรคก้าวไกล มีอันต้องถูกยุบขึ้นมาจริงตาม คำร้อง ของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมา คือต้องรอฟังคำวินิจฉัยว่า กรรมการบริหารพรรค จะถูกตัดสิทธิทางการเมืองไปด้วยหรือไม่ เพราะวันนี้ต้องยอมรับว่า พรรคก้าวไกล ยังไม่สามารถ ปั้นคน ขึ้นมาแทน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล  จนทำให้พรรคก้าวไกลได้คะแนนนิยม มาอย่างถล่มทลาย


 และจนถึงเวลานี้ แม้พรรคก้าวไกล จะอยู่ในสถานะ ฝ่ายค้าน ยังปรากฏว่า คะแนนนิยมนำหน้าแซง พรรคเพื่อไทย พรรคแกนนำรัฐบาล อย่างต่อเนื่อง 
 มีรายงานว่าสมาชิกพรรคก้าวไกล หลายคนประเมินเอาไว้ก่อนหน้านี้ ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีมติรับคำชี้แจง สู้คดียุบพรรค และนัดพิจารณาคดีต่อในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ แล้วว่า ภายในห้วงสัปดาห์นี้ จะมีความเคลื่อนไหว มีความชัดเจนให้ได้เห็นว่า คดียุบพรรคก้าวไกล จะ ขยับ !


 ความหวังของสมาชิกพรรคก้าวไกล ทั้งที่เป็นสส. และไม่ใช่สส. ต่อคดียุบพรรคว่าจะออกมาในทางที่เป็น บวก นั้นดูจะยากเย็นเต็มที ซึ่งสมาชิกทั้งพรรคจำนวนไม่น้อยที่ต้องการ ทำงานการเมือง และไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับ กรณีม.112 ดังนั้นเมื่อสถานการณ์ของพรรค กำลังเดินเข้าสู่ จุดอับ ด้วยปัญหาจากที่พรรคเข้าไปแตะม.112  จึงไม่ได้หมายความว่า หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจริง จะไม่มีรายการ แตกแถว ให้ได้เห็น

 
 แม้ในสายตาของแกนนำพรรคก้าวไกล ไปจนถึง เจ้าของพรรคตัวจริง อย่าง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ  ประธานคณะก้าวหน้า จะต้องการให้ทุกคนยึดถืออุดมการณ์และย้ายไปอยู่พรรคใหม่กันทั้งหมด   ทว่าความเคลื่อนไหวตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าสมาชิกพรรคสีส้ม พากันเดินสายเข้าพบ บิ๊กการเมือง ในหลายต่อพรรค กันอย่างคึกคัก 

 และจะประเมินจากความเป็นไปได้  การรู้จักที่เคยมีมาแต่เดิม ตามประสา คนการเมือง ผ่านสนามเลือกตั้งด้วยกันมา ดังนั้นอย่าได้แปลกใจว่า เหตุใดจึงมีกระแสข่าว ว่ายามนี้พรรคพลังประชารัฐ และพรรคเพื่อไทย จึง เนื้อหอม เป็นพิเศษ !