กลายเป็นความพิศดาร พันลึก ยากต่อการคาดเดาได้ว่า เวลานี้การเมืองไทย เดินไปสู่จุดที่เรียกว่ามีเสถียรภาพได้แล้วหรือไม่ อะไรคือจริง อะไรคือ เท็จ บรรดา “นักสังเกตการณ์” เองถึงกับจับต้นชนปลายกันแทบไม่ถูก!
เมื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ไม่เพียงแต่จะเข้าพบ “วิษณุ เครืองาม” อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลที่แล้ว ที่มี “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นั่งเป็นนายกฯคนที่ 29 เมื่อช่วงวันหยุดที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลกับสื่อว่าเป็นการเข้าไปปรึกษาหารือเรื่องการทำคำชี้แจง ต่อศาลรัฐธรรมนูญ คดีที่ “40สว.” ยื่นให้ถอดถอนออกจากตำแหน่ง
แต่ล่าสุด กลับกลายเป็นว่า นายกฯเศรษฐา ให้สัมภาษณ์สื่อชัดเจนว่า จะดึงวิษณุ มานั่งในตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ท่ามกลางความงุนงง สงสัยว่าในรัฐบาล ในพรรคเพื่อไทยนั้นไม่มี “มือกฎหมาย” ให้นายกฯเศรษฐา ได้ปรึกษาอย่างนั้นเลยหรือ ?
นอกจากนี้ตำแหน่งที่ปรึกษาสลค. สำหรับอดีตมือกฎหมายรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ อย่าง วิษณุ ต้องถือว่า “เล็ก” เกินไปด้วยซ้ำ
แน่นอนการมาของวิษณุ ที่จ่อคิวจะเข้ามานั่งเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายให้กับรัฐบาลเศรษฐา ย่อมถูกมองว่าเป็นบรรยากาศทางการเมืองอันไม่ปกติหรือไม่ เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ กับ ทักษิณ คือขั้วอำนาจที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกันมาโดยตลอด และเมื่อวันที่ทักษิณ ได้โอกาสกลับประเทศไทย ในรอบ 17ปีเมื่อเดือนส.ค.2566 ที่ผ่านมา ก็ถูกมองว่านี่คือ หนึ่งในเงื่อนไข ของ “ดีลลับลังกาวี” ด้วยหรือไม่
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่วิษณุ เสมือนเป็นตัวแทนจาก ขั้วอำนาจเก่าของพล.อ.ประยุทธ์ ได้รับความสำคัญต่อนายกฯเศรษฐา และยังจะถูกเชิญเข้ามาเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย จึงเท่ากับว่านี่คือการรวมกันของ “ระบบทักษิณ”กับ “ระบอบประยุทธ์” ตามที่ “เทพไท เสนพงศ์” อดีตสส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ขมวดปมทิ้งเอาไว้ผ่านเฟชบุคล่าสุด
อย่างไรก็ดี อีกด้านมุมหนึ่ง อาจประเมินแตกต่างออกไป ว่านี่อาจไม่ใช่การตอกย้ำความสัมพันธ์ของ สองระบอบ หากแต่อาจเป็นความพยายาม ของขั้วใด ขั้วหนึ่งที่จะกำลังเล่นเกม “ขบเหลี่ยม” ผ่านฉากหน้าที่มี อดีตรองนายกฯ มือฉมังทางกฎหมาย ที่ชื่อ วิษณุ เป็นตัวละครสำคัญ ต่างหาก !