แม้ฉากด้านหนึ่ง คล้ายกับว่า ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กำลังจะเพลี่ยงพล้ำ เมื่อล่าสุด ต้องเสียหมากบนกระดานไปแล้ว เพราะ พิชิต ชื่นบาน ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เมื่อวันที่ 21 พ.ค.67 ที่ผ่านมา
เพื่อหวังตัดตอน ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม หวังว่า ศาลรัฐธรรมนูญ ที่นัดหมายประชุมกันในวันนี้ (23 พ.ค.67) จะมีมติไม่รับคำร้องจาก 40สว. ที่ยื่นให้ตรวจสอบ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพราะต้นเรื่องคือตัวพิชิต ลาออกจากรัฐมนตรีไปแล้ว
แต่น่าสนใจว่า อีกฉากการเมืองด้านหนึ่ง กลับปรากฏว่า สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ผู้เป็น น้องเขย ไปลงสมัครสว.ที่จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันรับสมัครวันแรกที่ผ่านมา ทำเอาผู้คนพากันฮือฮา และกลับมามองเป็นตาเดียวกัน เพราะการที่สมชาย ลงสมัครเช่นนี้ คงไม่ได้มาเล่นๆ !
จากนั้นตามมาด้วย กระแสความเคลื่อนไหวการขยับของข่าวลือที่สะพัดมาแต่ไกลถึงโอกาสและความเป็นไปได้ว่า สมชาย จะก้าวไปถึงตำแหน่ง ประธานวุฒิสภา หรือไม่ จนพรรคก้าวไกล ต้องออกมาเบรคกันตัวโก่ง ว่าอย่างเพิ่งคิดไกล ไปถึงขั้นนั้น
การเลือกสว. 200 คนที่จะมาตามรัฐธรรมนูญ ฉบับ 2560ไม่ได้เปิดโอกาสให้ ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วม แต่กลับเต็มไปด้วยความคึกคักและเข้มข้น เพราะในสูตรการเลือกสว.ที่ให้เลือกกันเองนั้น กลายเป็นเรื่องยากที่จะสกัดการฮั้วลงคะแนนด้วยกันเอง
อย่างไรก็ดี การเลือกสว.ครั้งนี้ เดิมเป็นพื้นที่ ที่ พรรคก้าวไกล และ คณะก้าวหน้า หมายมั่นปั้นมือ มั่นใจว่า จะสามารถทำให้สภาสูง กลายเป็นสภาสีส้มได้ ถึงกับเดินสายรณรงค์ เป็นกลุ่มแรก ๆเพราะมองเห็นโอกาส ประเมินว่าด้วยสูตรการเลือกสว.นั้น พรรคใหญ่ ไม่สามารถผูกขาดเพียงฝ่ายเดียว
แต่ปรากฏว่า พรรคเพื่อไทย วันนี้ที่มีทักษิณ ยืนเด่นอยู่เบื้องหลัง ย่อมมองเห็นโอกาส ที่จะเข้าไปยึดวุฒิสภาได้เช่นกัน และยังมั่นใจว่ามีโอกาส มีหนทางเหนือกว่า พรรคก้าวไกล และคณะก้าวหน้าที่ ออกตัว ไปก่อนหน้านี้
การต่อสู้ในทางการเมืองสำหรับพรรคเพื่อไทย หลังถูกยึดอำนาจและนั่งทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านมาต่อเนื่อง ยาวนานได้จบลงไปแล้ว แต่จากนี้ไป จะเข้าสู่โหมดของการส่งคนไปยึด ทั้งสภาฯล่าง ,วุฒิสภา เดินไปพร้อมๆกับขาของ รัฐบาล ที่หวังจะได้อยู่ยาว !