แม้ พิชิต ชื่นบาน จะเป็น สายตรง จาก บ้านจันทร์ส่องหล้า จ่อคิวเข้ามาเป็นรัฐมนตรี ตั้งแต่เมื่อครั้งพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เศรษฐา1 แล้วก็ตาม จนมาสมหวังเอาในการปรับครม. เศรษฐา1/1  ล่าสุด

แต่กลับกลายเป็นว่า พิชิต กำลังถูก 40 สว. ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติของเขาว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่  และแน่นอนว่า ผลจากคำวินิจฉัยย่อมผูกพันกับ สถานะ ของตัวพิชิตเอง แต่ที่มากไปกว่านั้นคือเหตุจากเรื่องนี้กำลังถูกจับตาว่าจะลุกลาม จนทำให้เกิดปัญหา พากัน ตายหมู่ ดึง เศรษฐา ทวีสิน ให้มีอันต้องหลุดจากเก้าอี้ นายกฯคนที่ 30 ไปด้วยหรือไม่ 

และทั้ง พิชิต รวมถึง นายกฯเศรษฐา ก็ล้วนมาจาก สายตรง บ้านจันทร์ส่องหล้า เช่นกัน ด้วยเหตุนี้ การตัดสินใจสุดท้าย จึงถูกโฟกัสไปที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เจ้าของบ้านจันทร์ส่องหล้า ในฐานะผู้มีอิทธิพลเหนือรัฐบาล และพรรคเพื่อไทย จะขยับ หมากบนกระดานครั้งนี้อย่างไร ?

กระแสข่าวการลาออกของพิชิต สะพัดอย่างกว้างขวาง  เมื่อบ่ายของวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา  เพื่อ ตัดตอน ไม่ให้เรื่องราวลามไปถึงตัว นายกฯเศรษฐา  แต่แล้ว หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง เจ้าตัวออกมาปฏิเสธว่ายังคงเดินหน้าทำงานต่อ นอกจากนี้ในการประชุมครม. เมื่อวานนี้ (21 พ.ค.64) พิชิต ร่ายยาว ชี้แจงถี่ยิบกับสื่อว่าเขาอโหสิกรรมให้กับ 40 สว. และเชื่อว่าเรื่องนี้มีเบื้องหลัง ส่วนจะมี กลุ่มอำนาจเก่า เข้ามาเกี่ยวด้วยหรือไม่ ขอไม่ตอบ แต่ขอให้ดูกันเอาเอง ให้พิจารณากันเอง 

หลายคนในพรรคเพื่อไทย อย่าง สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ไม่ต้องการให้พิชิต ลาออก แต่อย่าลืมว่า หนึ่งในหลายหน้า ที่ถูกประเมินว่า หากพิชิต เลือกวิธี ชิงลาออก  ก่อนไปถึงวันที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะรับคำร้องเอาไว้พิจารณา ในวันที่ 23 พ.ค.นี้

เพื่อ ตัดตอน เพราะไม่มีเหตุให้ต้องพิจารณาการพ้นสภาพรัฐมนตรีของพิชิตที่ได้ลาออกไปแล้ว และยังอาจส่งผลให้คำร้องให้ถอดถอน นายกฯเศรษฐา  อันเป็นคำร้องที่ต่อเนื่องกัน อาจถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยกคำร้องไปด้วย 

เหนืออื่นใด การเดินเกมของกลุ่ม 40 สว. ครั้งนี้  ด้านหนึ่งถูกมองว่า เป็นการเล่นเกม ที่ รับงาน มาจากลุ่มอำนาจเก่า และพิชิต เองก็มองไม่ต่างกัน และไม่ว่าจะล้มนายกฯ ได้หรือไม่ แต่สิ่งที่ไม่อาจมองข้ามว่านี่คือ สัญญาณเตือน ที่ต้องการส่งตรงไปถึง ทักษิณ  ว่าดีลลับที่เคยตกลงกันเอาไว้นั้น จะเดินหน้าต่อไปอย่างไรหรือเป็นดีลที่กำลังจะหมดอายุ  !