6 พฤษภาคม 2567 “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ลุยงานในจังหวะวันหยุดชดเชย ยกคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยสื่อมวลชน ไปถึงโกดังเก็บข้าวที่จ.สุรินทร์ และยังได้โชว์กินข้าวจากโกดังที่เก็บเอาไว้นานนับ 10ปีว่ายังหุงกินได้ สยบข้อครหาว่ามี ข้าวเน่า ที่ถูกเก็บเอาไว้จากโครงการรับจำนำข้าว สมัยรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”
รองนายกฯภูมิธรรม บอกกับสื่อที่ตามไปว่า วันนี้ได้พาพิสูจน์ให้สิ้นข้อสงสัยว่าข้าว 10 ปียังสามารถหุง มีกลิ่น มีคุณภาพดีอยู่หรือไม่ร่วมกับสื่อมวลชนทั้งหมด ซึ่งได้ข่าวจากโกดังกิตติชัย มีข้าวอยู่ 112,711 กระสอบ และโกดังพูนผล 32,879 กระสอบ รวมประมาณ 150,000 กระสอบ มาหุงทานร่วมกับกับข้าว ผัดกะเพราไก่ไข่เจียว หากสิ้นข้อสงสัยภายในเดือนพฤษภาคมนี้ จะเปิดประมูลสาธารณะให้ทุกคนที่มีสิทธิ์เข้าร่วมในโครงการประมูลได้ คาดว่าราคากลางจะอยู่ที่ 18 บาท/กิโลกรัม ซึ่งราคาประมูลจะมากน้อยอยู่ที่กระบวนการ โดยจะป้องกันไม่ให้มีการละทิ้งข้าว
สำหรับจากทั้ง 2โกดังนี้นับเป็นข้าว 2 โกดังสุดท้ายของโครงการรับจำนำข้าว ตั้งแต่ปี 2556/2557 ร่วมระยะเวลา 10 ปี ที่เข้าสู่โครงการจำนำข้าวในช่วงนั้น นอกจากนี้รองนายกฯ ภูมิธรรม ยังระบุด้วยว่า ถ้าดูทางกายภาพเมล็ดข้าวยังมีจมูกข้าว ยังดูสวยงามสวยงาม สีสันอาจมีความเหลืองมากขึ้นซึ่งเป็นธรรมชาติของข้าวอายุ 10 ปี เรากำลังมาเคลียร์เอาเงินเข้ารัฐคาดว่าจะได้เงินประมาณ 200-400 ล้านบาท กลับเข้ามาโดยไม่หักค่าใช้จ่าย ซึ่งต้องมาจ่ายคืนค่าเช่าค่าใช้จ่ายอื่นคืนเข้ารัฐ
อย่างไรก็ดี หากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ปมประเด็นเรื่องข้าวเน่า ข้าวเสียที่โกดัง จ.สุรินทร์นั้นเคยมีปัญหาจนทำให้รัฐบาล พรรคเพื่อไทย ไปถึงอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ มาแล้ว แต่รองนายกฯภูมิธรรม ยืนยันว่าเขาเองพร้อมพิสูจน์ ข้าวจากโครงการจำนำข้าวที่มี อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ยังตกเป็นจำเลยในความผิดมาตรา 157 ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในโครงการจำนำข้าว และถือเป็นคดีสุดท้ายที่ยังค้างคาตัวอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ว่าหากคิดจะกลับประเทศไทย ก็ต้องมารับโทษเสียก่อน
นอกจากนี้ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตมือปราบโครงการจำนำข้าว ปัจจุบันนั่งเป็นประธานพรรคไทยภักดี ออกมาสวนกลับรองนายกฯภูมิธรรม ในรอบนั้นว่า อย่าคิดที่จะ “ฟอกขาว”ให้กับยิ่งลักษณ์ ด้วยการยืนยันว่า ข้าวในโกดังที่จ.สุรินทร์ นั้นไม่ใช่ข้าวเน่า เพราะหากเป็นข้าวดีจริง ทำไมถึงปล่อยเอาไว้โดยไม่นำออกขายตั้งแต่แรก
ปฏิบัติการฟอกขาวว่าด้วยเรื่องข้าวในโกดังที่จ.สุรินทร์ ครั้งนี้นั้น จึงมี “นัยยะ” ที่ลึกลับ ไปกว่าคุณภาพข้าว ที่รองนายกฯภูมิธรรม ยกคณะลงไปกินข้าวโชว์สื่อ หากแต่กำลังถูกจับตาว่า นี่คือการนับหนึ่ง เริ่มต้น ฟอกขาวให้กับอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ เมื่อภายหลังปรับครม.กันใหม่
ส่วนกระบวนการขั้นตอนเรื่องข้อกฎหมายนั้น ให้เป็นภารกิจ หน้าที่ของ “รัฐมนตรี” เจ้ากระทรวงที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยตรงที่จะนำยิ่งลักษณ์ กลับบ้าน เป็นช็อตต่อไป !