ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา บรรยากาศคึกคักผู้คนล้นหลามทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยว เห็นรัฐบาลแถลงตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ทะลักเข้าไทยมาก่อนสงกรานต์จากวันที่ 11-15 เมษายน 2567 กว่า 785,000 คน มีกระแสเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 2,800 ล้านบาท

ขณะที่ผู้เขียนสัมผัสจากประสบการณ์ตรงๆในละแวกชุมชน เชื่อว่ามีแรงบวกที่สำคัญ คือแรงงานต่างดาวชาวเมียนมาร์ บางส่วนไม่ได้เดินทางกลับประเทศเนื่องจากภัยสงคราม

แม้หลายคนจะอดเสียดายว่า หากโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเลตสำเร็จเร็ว ก่อนเทศกาลสงกรานต์จะมีพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจมากขนาดไหน แต่ไทมืไลน์ที่เลื่อนออกไป ก็คาดว่าจะได้ใช้กระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

อย่างไรก็ตาม หลังจากได้ประกาศรายละเอียดโครงการ และเปิดเผยถึงที่มางบประมาณโครงการ ว่าจะมาจาก 3 แหล่งหลักๆคือ

1.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 วงเงิน 152,700 ล้านบาท

2.ใช้เงินจากมาตรา 28 ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือธ.ก.ส. วงเงิน 172,300 ล้านบาท  

3.บริหารจัดการงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 วงเงิน 175,000 ล้านบาท

ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ทางธ.ก.ส.ได้ชี้แจงว่า “ธ.ก.ส. เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ มีวัตถุประสงค์ ในการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร หรือสหกรณ์การเกษตร ภายใต้กรอบ พ.ร.บ. ธ.ก.ส. โครงการต่างๆ ของรัฐบาลที่ผ่านมา ธ.ก.ส. ได้เข้าไปสนับสนุน ทั้งในมิติของการให้สินเชื่อและเป็นแหล่งทุนในการดำเนินการ โดย ธ.ก.ส. ยังคงสามารถบริหารสภาพคล่องและความแข็งแรง ให้เป็นไปตามมาตรฐานสถาบันการเงิน

" โครงการดิจิทัล วอลเล็ต "ตามที่ได้มีการแถลง ฯ นั้น ก็เป็นอีกหนึ่งในโครงการของรัฐบาล ที่เกี่ยวข้องในมิติของเกษตรกรผู้รับที่ ธ.ก.ส. อยู่ระหว่างการประสานงานในรายละเอียดที่จะดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายและการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม”

อย่างไรก็ตาม ยังมีข่าวลือข่าวลวงในโลกออนไลน์ ว่า ลูกค้าแห่ถอนเงินและผู้ถือหุ้นโวยวาย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ต้องออกมาสกัดข่าวลือข่าวลวงในโลกโซเชียลว่า ไม่เป็นความจริง เพราะ ธ.ก.ส. ได้แถลงแล้วว่ามีความพร้อมในเรื่องของเงิน ยืนยันว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกฏหมาย

ส่วนจะต้องส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบเพิ่มเติมหรือไม่ นายกรัฐมนตรีระบุว่า ต้องมีการตรวจสอบอยู่แล้ว และขอยืนยันอีกครั้งว่าทุกอย่างต้องตรวจสอบได้ โปร่งใส และไม่ใช่เรื่องนี้เพียงอย่างเดียว ทุกเรื่องต้องตรวจสอบได้

อย่างไรก็ตาม ปฏิกิริยาข่าวลือข่าวลวงเป็นเพียงแนวทดสอบระลอกแรก ที่ระหว่างทางกว่าจะถึงวันที่เงินหมื่นถึงมือประชาชน รัฐบาลเศรษฐาและผู้เกี่ยวข้องทั้งหลายจักต้องเผชิญมรุสมข่าวอีกหลายระลอก