ฝุ่นตลบ !? 

แค่เงื้อง่า ทำท่าว่าการปรับครม. กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า ไม่นานนี้ ปรากฏว่า  “แรงกระเพื่อม” ผุดกระจายไปทั่ว กระทบแทบทุกพรรคที่อยู่ร่วมรัฐบาลกับ “เพื่อไทย” อย่างที่เห็น !  

 จากเดิมที่หลายคนพุ่งเป้า โฟกัสที่ไปพรรคเพื่อไทย ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล จะเกิดความวุ่นวาย สับสน อลหม่านมากกว่าใครเพื่อนหรือไม่ ทั้งในฐานะพรรคใหญ่ มีหลายกลุ่มก๊วนอยู่รวมกันในพรรค และเหนืออื่นใด คือต่างรอฟังสัญญาณจาก “บ้านจันทร์ส่องหล้า” ว่าเจ้าของพรรคอย่าง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ จะเอาอย่างไร จะให้ “ใครอยู่” หรือ “ไป”  !

 แต่ปรากฏว่า ล่าสุดเกิดแรงกระเพื่อม ที่มาจากความเคลื่อนไหวจากการปรับครม. ลามไปยังพรรคต่างๆ ว่าแท้ที่จริงแล้ว ต่างก็ไม่มีใคร อยู่นิ่งเฉย  
 พรรคพลังประชารัฐ ยังเหลืออีก 1 เก้าอี้ ตามโควตารัฐมนตรี ซึ่ง “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค ยังคงเดินหน้าดัน คนสนิท อย่าง “ไผ่ ลิกค์” สส.กำแพงเพชร เข้าไปนั่งรัฐมนตรี เช่นเดิม แม้ไผ่ จะติดปัญหาเรื่องคุณสมบัติ  และล่าสุดมีรายงานว่า ถ้าชื่อไผ่ ยังไม่ผ่านอีก จะมีการส่งชื่อใหม่ คือ “อรรถกร ศิริลัทธยากร” สส.ฉะเชิงเทรา ขึ้นมาแทน

  แต่อย่าลืมว่า ในพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้มีแต่กลุ่มของร.อ.ธรรมนัส  เท่านั้นที่กำลังเคลื่อนไหว เพราะ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ก็ต้องการผลักดัน คนในสายของตนเอง เข้าไปเช่นกัน เท่ากับว่าในพรรคพลังประชารัฐ จะต้องเผชิญกับแรงกดดัน การเมืองภายในด้วยกันเอง หากกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เป็นฝ่ายชนะ ส่งชื่อ รัฐมนตรีคนใหม่เข้าไปนั่งในครม. “เศรษฐา 2” 

 ขณะเดียวกันยังพบว่า ปัญหา “ภายใน” ของพรรคเพื่อไทย ที่จะมีการปรับเปลี่ยน “ตัวเล่น” อาจจะทำให้เกิดรายการ “กินแดน” ไปยังพรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่น โดยเฉพาะ “พรรคประชาชาติ”   เมื่อมีรายงานว่า มีชื่อ “สุทิน คลังแสง” อาจจะต้องหลุดจากเก้าอี้ รมว.กลาโหม เพื่อเปิดทางให้ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกฯ นั่งควบกลาโหม เช่นเดียวกับที่มีชื่อ “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” อาจจะต้องหลุดจากรมว.สาธารณสุข แล้วทั้งคู่ต้องกลับไปทำงานที่สภาฯ 

 จึงมีคำถามตามมาว่า ทั้งสุทิน และนพ.ชลน่าน จะกลับไปทำงานสภาฯในตำแหน่ง “ประธานสภาฯ” หรือไม่ และหากเป็นเรื่องจริง ปัญหาจะเกิดที่พรรคประชาชาติทันที เพราะ ปัจจุบัน “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” เป็นประธานสภาฯอยู่แล้ว นับตั้งแต่เมื่อครั้งที่พรรคเพื่อไทยเคยจับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล ก่อนที่จะแยกกันเดิน 
 ซึ่งแน่นอนว่าทั้งสุทิน และนพ.ชลน่าน จะต้องการลุกออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีในระดับ “ว่าการฯ” แล้วไปทำงานที่สภาฯ จริงหรือไม่ และหากต้องไป ก็ย่อมมีแต่เก้าอี้ ประธานสภาฯ ที่จะสมน้ำสมเนื้อ เท่านั้น แต่พรรคประชาชาติ จะยอมเสียเก้าอี้ ประมุขสภาฯ ให้หรือ 

 สถานการณ์ทางการเมืองเวลานี้ จึงเต็มไปด้วยความอึมครึม เพราะ “รัฐมนตรี” ที่มีชื่ออยู่ในกลุ่มเสี่ยง ย่อมหวาดผวา กับอนาคตของตัวเองกันถ้วนหน้า !