แก้วกานต์ กองโชค ตั้งแต่เดือนมกราคม จนถึงเดือนพฤศจิกายน 2559 นักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อหุ้นไทยสุทธิ 99,311 ล้านบาท แม้ว่าในเดือนตุลาคม และพฤศจิกายนที่ผ่าน นักลงทุนต่างชาติได้ขายหุ้นมากเป็นพิเศษ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่จะส่งผลกระทบต่อการตำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ จะเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยยังอยู่ในสภาพทรงตัว โดยปี 2558 มีการขยายตัว 2.8% ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดการณ์ว่า ในปี 2559 เศรษฐกิจจะขยายตัว 3.2 % และ ปี 2560 จะขยายตัว 3.2% อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในปี 2558 อยู่ที่ 1.1 % แต่ในปี 2559 คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อทั้งปีจะอยู่ที่ 0.8% และปีหน้าจะอยู่ที่ 1.0%ดังนั้นการโดนัล ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ อาจจะไม่ส่งผลกระทบต่อสถานะทางเศรษฐกิจของไทยแต่ประการใด ยกเว้นว่า โดนัล ทรัมป์ จะใช้มาตรการดึงนักธุรกิจของสหรัฐกลับประเทศอย่างจริงจัง แต่การที่ทรัมป์เป็นนักธุรกิจและมีมุมมองที่จะลดการผ่อนคลายกฎเกณฑ์กำกับดูแลในการทำธุรกิจ กลับส่งผลทางด้านบวกต่อการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ โดยมุ่งเน้น “ปัญหาทางด้านธุรกิจ” และ “ปัญหาเศรษฐกิจ” ของสหรัฐมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้ดัชนดาวโจนส์ยืนอยู่ที่ระดับ 18,847.66 จุด เมื่อปลายสัปดาห์ที่สองของเดือนพฤศจิกายน ขณที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของไทยก็ปรับตัวยืนเหนือระดับ 1,500 จุด แสดงให้เห็นถึงทิศทางการตอบรับของนักลงทุน นักลงทุนเชื่อว่า ทรัมป์จะไม่ดำเนินนโยบายแบบสุดโต่งมากเกินไป หลังจากเขาถอดเนื้อหาเกี่ยวกับการแบนมุสลิมออกจาแวปไซต์ นั่นทำให้ “ความไม่แน่นอน” เกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของทรัมป์เริ่มลดน้อยลง การที่ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง ยังส่งผลต่อราคาทองคำ เมื่อวันที่ 9 พ.ย.2559 ราคาทองปรับขึ้นสูง โดยสมาคมค้าทองคำประกาศปรับราคาขึ้น-ลงทั้งหมด 19 ครั้ง ซึ่งมีราคาสูงสุดระหว่างวันเพิ่มขึ้นบาทละ 700 บาท ทำให้มีนักลงทุนและประชาชนทั่วไปแห่ขายทำกำไร และจากนั้นราคาทองคำร่วงลงต่อเนื่อง เพราะนักลงทุนโยกเงินจากตลาดทองคำไปตลาดหุ้นและพันธบัตรแทน เพื่อเก็งกำไรนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของทรัมป์ ส่งผลให้ร้านทองบางแห่งที่บริหารทองคำไม่รวดเร็วพอขาดทุนทันที “หลังทราบผลการเลือกตั้งสหรัฐ ทำให้ราคาทองพุ่งขึ้นมาก เพราะนักลงทุนกังวลความเสี่ยง เมื่อนักลงทุนตั้งสติได้แล้ว พบว่านโยบายต่างๆที่เน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลดภาษีในสหรัฐ ทำให้เกิดการโยกเงินไปตลาดหุ้นและพันธบัตรแทน” พิชญา พิสุทธิกุล เลขาธิการสมาคมค้าทองคำอธิบายรายละเอียด แต่อย่างไรก็ตาม การซื้อขายทองคำยังได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายในประเทศ โดยการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ รวมทั้งหนี้ครัวเรือนของประชาชนยังอยู่ในระดับสูง ดังนั้น จะเห็นได้ว่า ชัยชนะของทรัมป์ ส่งผลกระทบต่อตลาดการลงทุนเกือบทุกประเภท ทรัมป์ปราศัยทิ้งท้ายว่า “เราลบหลู่ ปูติน ลบหลู่EU ลบหลู่จีน เราถือครองเทคโนโลยี่ขั้นสูงสุดแต่ทางการค้าสู้จีนไม่ได้ จึงต้องสละWTO ไปเริ่ม TPP ดูจีนซิ 20 ปีที่ผ่านมานี้ซิ พวกเขาไม่เพียงแต่ช่วงชิงตำแหน่งอันดับ 1 ทางการค้าโลกจากเราไป แต่ได้ซื้อเหล็กกล้าร้อยละ80 น้ำมันและแก๊สร้อยละ 40 ถั่วเหลือง ร้อยละ 70 ทองคำและทองแดงร้อยละ 80 จากทั่วโลก ซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินจาก ยูเครน จรวดนำวิถีจากอิสราเอล เครื่องกลึงจากเยอรมันเหล้าไวน์จากฝรั่งเศส” แปลไทยเป็นไทยอีกรอบก็คือ ทรัมป์สนใจว่า สหรัฐจะแก้ปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดที่เกิดขึ้นกับจีนได้อย่างไร ???