เมื่อ จุดแข็ง กำลังจะกลายเป็น จุดอ่อน จากที่เคยเป็นฝ่าย ถือแต้มต่อกุมความได้เปรียบ สถานการณ์อาจพลิกผัน แปรเปลี่ยนกลายเป็น ฝ่ายพลาดพลั้งแทน !
ภายหลังจากที่กระทรวงยุติธรรม และกรมราชทัณฑ์ ออกมามีแอคชั่นเปิดเกมเร็ว ด้วยการแถลงข่าวแจกแจงและยืนยันว่า ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั้นเข้าเกณฑ์ พักโทษกรณีพิเศษ โดยเปิดเผยถึงคุณสมบัติต่างๆ ได้กลายเป็นการเปิดปมร้อน รอบใหม่ ปลุก แนวต้าน ให้ออกมาต้านอย่างที่เห็น
เมื่อวันที่ 17 ม.ค.67 ที่ผ่านมา สมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม ระบุว่า ภายหลังจากที่อดีตนายกฯทักษิณ อยู่ระหว่างการนอนพักรักษาตัวภายนอกเรือนจำ เกินกว่า 120 วัน เป็นไปตามขั้นตอนที่อธิบดีกรมราชทัณฑ์ จะต้องมีความเห็นและรายงานไปตามลำดับชั้น และเมื่อเกินกว่า 120 วัน ต้องรายงานให้รัฐมนตรีรับทราบ ซึ่งเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา พงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุจิธรรม ได้เซ็นรับทราบการอนุญาตนอนพักรักษาตัวภายนอกเรือนจำ
จากนั้น เมื่อวันที่ 16 ม.ค.67 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ได้เซ็นรับทราบถึงการนอนพักรักษาตัวของ ทักษิณ ที่เกินมา 136 วัน ถือว่าเข้าเงื่อนไขและปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย ขณะที่ สิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ แถลงว่า คุณสมบัติของทักษิณ หากดูจากหลักเกณฑ์ที่ว่าเป็นผู้ต้องขังเด็ดขาดชั้นกลาง สูงวัย และมีอาการเจ็บป่วย ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับการพิจารณาในโครงการพักการลงโทษ กรณีมีเหตุพิเศษ เนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการ หรือมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป
ทันทีที่มีความชัดเจนจากกรมราชทัณฑ์ และกระทรวงยุติธรรม ทำให้เกิดแรงต้านจาก สว.และฝ่ายค้านที่ตามติดความเป็นไปของทักษิณ ที่ได้รับอภิสิทธิ์ เหนือนักโทษคนอื่นๆ ออกมาส่งเสียงเตือนแล้วว่า ระวังงานนี้จะมีคนติดคุกแทน โดย สมชาย แสวงการ สว. ระบุว่า กรมราชทัณฑ์ต้องดูว่านักโทษเด็ดขาดผู้ใดที่มีความประพฤติดี ทักษิณอยู่ในเกณฑ์หรือไม่ สิ่งที่แถลงไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นการพักโทษพิเศษได้อย่างไร และระเบียบที่อ้างกันก็ไม่ได้มีเจตนารมณ์ให้กลับไปอยู่บ้าน แต่มีความพยายามอ้างเรื่องการพักอยู่ที่บ้าน
การพักโทษให้กับทักษิณกำลังกลายเป็นวาระร้อนๆทางการเมือง ที่มีความเป็นไปได้ที่จะกระทบต่อทั้งรัฐบาล พรรคเพื่อไทย และ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่จะต้องเป็นผู้ตอบคำถาม แม้เรื่องนี้จะอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงยุติธรรม ก็ตามที
แต่เหนืออื่นใด ยังน่าสนใจว่า เมื่อเงื่อนปมเรื่องการพักโทษให้กับทักษิณ ยังไม่สะเด็ดน้ำและถูกท้าทายจากฝ่ายต่อต้าน เร่งเร้าให้รัฐบาล กล้าทำจริง จะกลายเป็น ปัญหาใหม่ ที่กระทบไปถึงการกลับประเทศไทยของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผู้เป็นน้องสาว ตามมาหรือไม่ หลังจากที่มีความจงใจให้ข่าวทั้งในและนอกพรรค ว่า หากสามารถช่วยอุ้มทักษิณ ได้แล้ว จะเป็นการกรุยทางให้ยิ่งลักษณ์ แต่เมื่อสถานการณ์การเมืองกำลังเริ่มก่อตัวแห่งความวุ่นวายรอบใหม่ หลายคนเชื่อว่า ยิ่งลักษณ์ คงคิดหนัก จะกลับไทยเพื่อมาเผชิญหน้ากับ ความขัดแย้งรอบใหม่ หรือไม่ ?