เสือตัวที่ 6
คำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 344/2566 เรื่องแต่งตั้งคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนใต้ แต่งตั้งรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นหัวหน้าพูดคุย และมีคณะพูดคุยชุดใหม่ล่าสุด ประกอบด้วย เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้, ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ, ผู้แทนกระทรวงยุติธรรม, โดยมีผู้แทนสำนักงาน สมช., ผู้แทนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นคณะพูดคุย และเลขานุการร่วม คำถามสำคัญคือ คนจากผู้แทนหน่วยงานของรัฐเหล่านี้ ได้คัดสรรค์คนที่มีความรู้ ความเข้าใจปัญหา เงื่อนไข และการขับเคลื่อนการต่อสู้กับรัฐที่เกิดขึ้นตลอดเกือบ 21 ปี นับจากการปล้นปืนจากค่ายทหารไทยในพื้นที่แห่งนี้เมื่อปี 2547 อย่างถ่องแท้แค่ไหน การต่อสู้กับรัฐของขบวนการแบ่งแยกปลายด้ามขวานของไทยเป็นสภาวการณ์เฉพาะที่มีเอกลักษณ์เป็นของพื้นที่แห่งนี้เอง เป็นลักษณะพิเศษเฉพาะพื้นที่ที่มีความแตกต่างจากการต่อสู้ของกลุ่มคนในพื้นที่ใดๆ ในโลกใบนี้ ด้วยที่มาของความขัดแย้งของกลุ่มคนในขบวนการแห่งนี้ก็สลับทับซ้อนกันหลายมิติ ทั้งที่มาของความขัดแย้งทางประวัติศาสตร์เชิงบาดแผลที่ซ่อนปนไปด้วยชาติพันธุ์เชิงแบ่งแยก และเจือปนไปด้วยหลักคิดทางศาสนาความเชื่อที่บิดเบือนหรือหยิบยกบางประเด็นมาเป็นพลังในการต่อสู้กับคนเห็นต่างอย่างแยบยลยิ่ง
ในขณะที่ใช้การต่อสู้ที่สลับซับซ้อนหลากหลายมิติ ทั้งการต่อสู้ทางความคิดที่มุ่งหมายจะแบ่งแยกแตกต่างจากคนทั่วไปแอบซ่อนการสะสมบ่มเพาะความเห็นต่างในทุกกลุ่มคนในพื้นที่ สร้างความเห็นต่างจากเล็กน้อยจนขยายไปเป็นความเครียดแค้นชิงชังและพร้อมที่จะเป็นแนวร่วมขบวนการเหล่านี้ต่อสู้กับรัฐเพื่อสู่การเป็นอิสระในการปกครองกันเองของคนในพื้นที่ คู่ขนานไปกับการขยายความเห็นต่างไปสู่กลุ่มคนในทุกระดับตั้งแต่ระดับท้องถิ่นไปสู่ระดับนโยบายชาติในทุกองค์กร ทุกสาขาอาชีพที่เป็นไปได้โดยเฉพาะสื่อสารมวลชนไปจนถึงนักวิชาการทั้งในพื้นที่และในส่วนกลาง ให้กลุ่มคนเหล่านั้นพลอยเห็นดีเห็นงามไปกับการให้คนในขบวนการแห่งนี้เดินหน้าไปสู่เป้าหมายสุดท้ายที่ต้องการ นับเป็นยุทธศาสตร์การต่อสู้ทางความคิดที่เหนือชั้นยิ่ง ด้วยพลังในการหลอมรวมกลุ่มคนต่างๆ ข้างต้น ได้ขับเคลื่อนมาเป็นลำดับ โดยพยายามยกตัวอย่างพร้อมเหตุผลที่การแก้ปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่แห่งนี้ไม่บรรลุเป้าหมายเท่าที่ควร จนกระทั่งเข้าสู่โอกาสทองที่จะเปลี่ยนองคาพยพที่จะเอื้ออำนวยให้การต่อสู้ของขบวนการร้ายแห่งนี้ง่ายขึ้น
แม้แท้ที่จริงแล้ว การเดินหน้าของการแก้ปัญหาของรัฐที่ผ่านมาและยังไม่บรรลุเป้าหมายของการต่อสู้นั้น หาใช่เหตุผลเดียวไม่ ขบวนการการสร้างความเห็นที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงที่พยายามส่งผ่านความคิดให้เห็นว่า การพูดคุยสันติสุขที่ยังไม่ไปถึงไหนเพราะรัฐบาลแต่งตั้งหัวหน้าคณะพูดคุยที่เคยเป็นทหาร ซึ่งบุคคลในลักษณะนี้ยังไม่มีความเข้าใจในบริบทการเข้าใจในวิถีชาวบ้านและแก้ไขปัญหาด้วยการพูดคุยสันติภาพที่ต้องมองได้ทุกมิติความขัดแย้งและทางออกได้ตรงใจประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง และพยายามส่งผ่านความคิดเหล่านั้นอย่างต่อเนื่องจนกระพือความคิดนั้นอย่างเข้มข้นช่วงการเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมา เหล่านั้นคือที่มาของการแต่งตั้งหัวหน้าคณะพูดคุยที่เป็นพลเรือนตมคำสั่งฯ ข้างต้น พร้อมทั้งการบรรลุความพยายามในการขจัดองค์กรด้านความมั่นคงโดยเฉพาะหน่วยทหารที่คว่ำหวอดอยู่กับการต่อสู้กับขบวนการร้ายแห่งนี้มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเลือกใช้หัวหน้าคณะพูดคุยที่ควรจะเป็นบุคคลที่ไม่อยู่ในราชการเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผูกมัดกับรัฐมากจนเกินไปซึ่งจะเป็นการเข้าทางกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดนปลายด้ามขวานที่ถึงวันนี้ ในขณะที่กลุ่มขบวนการร้ายเหล่านี้ ก็ยังไม่มีการแสดงตนว่าเป็นองค์กรเดียวกัน การเจรจาพูดคุยใดๆ กับขบวนการใดก็ไม่อาจเป็นข้อผูกมัดกับกลุ่มต่อสู้อื่นๆ ในพื้นที่ซึ่งนั่นจะทำให้รัฐเป็นฝ่ายเสียเปรียบฝ่ายเห็นต่างจากรัฐเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งหัวหน้าคณะพูดคุยและทีมงานจะมั่นใจได้อย่างไรว่าการเจรจากับกลุ่มนั้นเป็นที่ยอมรับกับกลุ่มเห็นต่างอื่นๆ และจนถึงวันนี้ ขบวนการ BRN ก็ไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นตัวแทนของกลุ่มก่อความไม่สงบอื่นๆ นับเป็นการเจรจาในนามของคณะพูดคุยที่รัฐเสียเปรียบในทุกประตูอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากนั้น ความลุ่มลึกต่อปัญหาและทางแก้ปัญหาอย่างสันติวิถีผ่านการพูดคุยสันติภาพในพื้นที่แห่งนี้ ยังมีกลุ่มคนที่พร้อมจะใช้ความรุนแรงเพื่อก่อเหตุร้ายใดๆ ให้เห็นว่าพวกเขายังมีศักยภาพทางทหารอย่างเข้มแข็งในทุกโอกาสที่ต้องการ เพื่อเป็นแรงหนุนส่งอีกทางหนึ่งให้การเจรจาของพวกเขามีอำนาจต่อรองที่เหนือกว่าคณะพูดคุยสันติสุขของรัฐ ทำให้เงื่อนไขและความต้องการใดๆ ของกลุ่มคนในพื้นที่บรรลุเป้าหมายให้มากที่สุด และตัวอย่างที่สำคัญของพื้นที่แห่งนี้นั้น มีลักษณะการก่อเหตุร้ายด้วยอาวุธอันแตกต่างจากความขัดแย้งในพื้นที่อื่นของโลกก็คือการก่อเหตุของกองกำลังติดอาวุธในพื้นที่แห่งนี้ทุกครั้ง จะไม่มีการประกาศการลงมือก่อเหตุร้ายเฉกเช่นการก่อเหตุร้ายในพื้นที่อื่นๆ ของโลก จึงเห็นได้ว่า เมื่อทุกย่างก้าวของฝ่ายขบวนการแบ่งแยกการปกครองจากรัฐนั้น มีความลุ่มลึกและมีการวางยุทธศาสตร์การต่อสู้อย่างเป็นกระบวนการ มีการร้อยเรียงเรื่องราวตลอดจนการส่งผ่านชุดความคิดต่างๆ ล้วนมุ่งสู่เป้าหมายสุดท้ายนั่นคืออิสรภาพในการปกครองกันเองตามวิถีที่กลุ่มตนต้องการ นับจากการเรียกร้องความสนใจผ่านการก่อเหตุร้ายตลอดกว่า 20 ปีที่ผ่านมา พัฒนาไปเป็นการก่อเหตุร้ายเพื่อสร้างอำนาจต่อรองในการเจรจากับรัฐ การส่งผ่านชุดความคิดอย่างต่อเนื่องที่ว่าปัญหาในพื้นที่ต้องให้คนในพื้นที่แก้ไขปัญหากันเอง การส่งผ่านชุดความคิดที่ว่าหน่วยงานความมั่นคงทางทหารเหล่านั้นเป็นต้นเหตุของปัญหาที่แก้ไม่จบ การขจัดตัวบุคคลและองค์กรที่รู้เท่าทันความคิดของแกนนำขบวนการเพื่อสร้างโอกาสโน้มน้าวให้ทุกการแก้ปัญหาของรัฐต่างๆ เหล่านั้น เป็นการเข้าทางการบรรลุเป้าหมายสุดท้ายของขบวนการแห่งนี้ในที่สุด