ทีมข่าวคิดลึก
เมื่อทุกอย่างยังคงเคลื่อนขยับต่อไปอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของการบ้านและการเมือง มิหนำซ้ำล่าสุดยังดูเหมือนว่าปัญหาราคาข้าวที่ตกต่ำอย่างที่สุดในรอบ 10 ปี กำลังแปรเปลี่ยนไปสู่ "พืชการเมือง" เพราะประหนึ่งว่าเป็นการปลุกให้อุณหภูมิการเมืองกลับมาร้อนระลอกใหม่ !
เวลานี้นอกเหนือไปจากที่รัฐบาลโดย "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะออกมาตรการออกมาเพื่อหาทางคลี่คลายปัญหาราคาที่ตกต่ำแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นคือการเปิดหน้าปะทะกันระหว่าง "สามขั้ว" ได้แก่รัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย โดยต่างฝ่ายต่างโทษว่าเป็นผลพวงจากการกระทำของอีกฝ่ายหนึ่ง แต่ผลลัพธ์กลับมาตกที่ชาวนาต้องหาทางดิ้นรนต่อสู้ด้วยตัวเอง
ทั้งการสีข้าวเอง และนำมาขายเองผ่านทุกช่องทาง โดยไม่ผ่าน "เจ้าของโรงสี" หรือนายทุน จนทำให้เกิดเสียงตอบรับ มีแรงเชียร์จากทุกทิศทุกทางด้วยอยากเห็นพี่น้องชาวนาพากันลืมตาอ้าปาก พลิกจาก "กระดูกสันหลังของชาติ" มาสู่ผู้กำหนดชะตาตัวเอง
ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลเองออกมาชี้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นครั้งนี้นั้น เป็นเพราะ"นักการเมือง" บางกลุ่ม บางฝ่าย หันไปจับมือกับ "เจ้าของโรงสี" และนายทุน เพื่อกดราคาข้าวให้ตกต่ำ เพื่อต้องการดิสเครดิตรัฐบาล ปลุกกระแสต่อต้าน คสช.
แน่นอนว่าฝ่ายที่ถูกพาดพิงและกล่าวถึงย่อมไม่อาจทนนิ่งเฉยอยู่ได้ ดังนั้นตลอดหลายวันที่ผ่านมาจึงมีเสียงตอบโต้ปฏิเสธดังออกมาเป็นระยะๆ ล่าสุดมีปฏิกิริยาจากสมาคมโรงสีและตัวแทนโรงสีทั่วประเทศ ออกมายืนยันแล้วว่าโรงสีไม่ได้กดราคารับซื้อหรือร่วมมือกับใครเพื่อหวังผลราคาข้าวตกต่ำ การรับซื้อข้าวเป็นไปตามกลไกตลาดและกำหนดราคารับซื้อตามปกติ
อย่างไรก็ดี ปัญหาเรื่องราคาข้าวตกต่ำยังอยู่ในระหว่างคลี่คลายอยู่นั้นยังต้องไม่ลืมว่าอีกทางหนึ่ง การต่อสู้ทางการเมืองจากฝ่ายพรรคเพื่อไทยเองแม้จะอยู่ในภาวะที่ "ตกเป็นรอง" แต่ไม่ได้หมายความว่าการเดินกลยุทธ์รุกไล่รัฐบาลในจังหวะที่รัฐบาลกำลังแบกรับปัญหาราคาข้าวตกต่ำ จะไม่เกิดขึ้น !
สถานการณ์วันนี้จึงดูเหมือนว่าคสช. และรัฐบาลไม่มีทางเลือกอื่น นอกเสียจากเร่งหาทางแก้ไขปัญหาราคาข้าวให้กับพี่น้องชาวนาโดยเร็ว ขณะเดียวกันส่งเจ้าหน้าที่รัฐจากหน่วยงานต่างๆเพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาและให้การช่วยเหลือชาวนา ยังต้องดำเนินการควบคู่กันไปอย่างเข้มงวด ต่อเนื่องและจริงจัง
อีกทั้งยังน่าสนใจว่าเวลานี้รัฐบาลได้สั่งการไปยังแทบทุกกลไกที่มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้งกระทรวงมหาดไทย ให้ช่วยกันสอดส่องปัญหาในพื้นที่เพื่อปราบไม่ให้เกิดการปลุกปั่นจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจนเกิดเป็น "ม็อบชาวนา" ลามเข้ามากดดันนายกฯ ประยุทธ์จนถึงหน้าทำเนียบฯ เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริง จะยิ่งเป็นการทำลายคะแนนของ พล.อ.ประยุทธ์ แทบไม่ต้องสงสัย !
นอกจากนี้ก็ยังเป็น พล.อ.ประยุทธ์และคนในรัฐบาลที่ประสานเสียงสนับสนุนให้ชาวนาและลูกหลานซึ่งเป็นเด็กรุ่นใหม่ เปิดการขายข้าวผ่านโลกโซเชียลเพื่อแก้ปัญหาการถูกเอารัดเอาเปรียบจาก "นายทุน"
นั่นหมายความว่าท่าทีของรัฐบาลที่มีต่อปัญหาราคาตกต่ำในยามนี้ นอกจากจะออกมาตรการช่วยเหลือเท่าที่จำเป็น โดยไม่สร้างความสุ่มเสี่ยงให้กับรัฐบาลเองแล้ว ในทางด้านหนึ่งยังเปิดทางให้กับชาวนาหาทางตอบโต้ "นายทุน"ได้อย่างละมุนละม่อมอีกด้วยต่างหาก!