ระหว่างวันที่ 7-13 พฤษภาคม พ.ศ.2519 ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมชป่วยด้วยโรคตับอ่อนอักเสบ มีอาการหนักมากเป็นตายเท่ากัน ท่านบอกว่า "เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ มรณะ เข้ามาถึงตัวอย่างใกล้ ชิดที่สุด"ต่อมาหลังจากร่างกายฟื้นฟูแล้ว ท่านเขียนเรื่อง "มรณากถา" เป็นธรรมะสอนใจชิ้นเยี่ยมชิ้นหนึ่ง มีเนื้อหาบางตอนดังนี้ "เอาเรื่อง ชาติ ชรา พยาธิ มรณะ ก่อน ขอบอกเสียก่อนว่า เวลาเจ็บหนักใกล้จะตายนั้น ถ้าใครยังมีสติคอยสังเกตดูจะแลเห็น เกิดแก่ เจ็บ ตาย ได้ชัดยิ่งกว่าเวลาที่ร่างกายยังเป็นปกติไม่ป่วยหนัก เกิด นั้นมิได้หมายถึงอุบัติขึ้นเท่านั้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว มันกเกิดขึ้นเรื่อยๆ ไป ซึ่งเรียกกันว่างอกเงยเติบโต ทั้งนี้เป็นจริงไม่ว่าจะเป็นไปในทางรูปธรรมหรือทางนาม ร่างกายนั้นเมื่อเกิดแล้วก็เจริญเติบโตขึ้น บางส่วนตายไปก็มี ส่วนที่ใช้การได้อย่างเดียวกันนั้นเกิดขึ้นแทนและงอกเงยต่อไปอีก สังขารที่เป็นนามนั้นก็เช่นเดียวกัน เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็งอกเงยต่อไป ที่ตรงไหนดับลงก็มีอะไรเกิดขึ้นมาแทนที่แล้วงอกเงยต่อไปอีก แต่การเกิดนี้มิใช่ของที่ไม่มีที่สิ้นสุด ที่สุดของการเกิดคือมรณะ หรือความตาย ความตายมาถึงเมื่อใด ความเกิดก็สิ้นสุดลงเมื่อนั้น ความตายจึงเป็นไม้ท่อนเดียวกับเกิด ถ้ามีเกิดเป็นหัวไม้ ตายก็เป็นหางไม้ พ้นจากนั้นแล้วก็ไม่มีอะไรอีก ที่ว่าไม่มีอะไรอีกก็คือนามรูปหรือขันธ์ห้า ที่เรามักจะยึดถือว่าเป็นของเรา ผมเชื่อว่าสิ้นสุดลงแน่เมื่อตายมาถึง ถ้าหากจะมีอะไรเกิดต่อไป ก็เป็นเรื่องของกรรมซึ่งพระท่านสอนไว้ แต่จะเกิดอย่างไรนั้นผมยังไม่รู้ ยังไม่เป็น พูดไม่ได้ ที่พระนาคเสนถวายพระพรไว้ต่อพระเจ้ามิลินท์นั้น ผมเห็นว่าเล่นลิ้นเหมือนกับปัญญาชนคุยกันเพื่อแสดงปัญญาของตนเอง ไม่ได้แสดงความจริง สรุปแล้ว มรณะ เป็นที่สุดของชาตะหรือเกิด เป็นกฎเกณฑ์ธรรมดาที่ไม่มีใครเลี่ยงได้ เพราะทุกอย่างย่อมมีที่สุด มีขอบเขต จักรวาลยังมีขอบพระมหาสมุทรยังมีฝั่ง อันที่จริงก็เป็นบ่อขนาดใหญ่เท่านั้นเอง หนังไทยนั้นถึงจะยาวจนหลับแล้วหลับอีก ก็ยังมีจบลงจนได้ ชีวิตก็เป็นอย่างนั้นใครอยากเกิดก็ต้องยอมรับความตาย จะไม่ยอมรับเงื่อนไขนี้ไม่ได้แต่ถ้าไม่อยากเกิด และไม่เกิดอีก ตายก็ไม่มี อย่างนี้เรียกว่า อมตธรรม คือ ธรรมที่ไม่ตาย... พยาธินั้นเหมือนคนที่คอยดักทำร้ายเราอยู่ตลอดเวลา ได้ท่าเมื่อไรมันก็เอาเมื่อนั้น ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นเด็ก หรือเป็นหนุ่ม เป็นสาว หรือคนแก่ เป้าหมายของพยาธิที่มีต่อเรานั้นมีอย่างเดียวคือ การเอาให้ตาย ขั้นแรกมันอาจตีเราให้ล้มก่อน ถ้าเรายังสู้มันได้ ก็เป็นการตีสั่งสอน แต่ถ้ามันเห็นว่าเราสู้มันไม่ได้ มันก็จะซ้ำจนตาย สิ่งที่จะสู้กับพยาธิได้คือแรงเกิดที่มีอยู่ในตัวเรา คือทำให้เกิดสิ่งต่างๆ ที่พยาธิมันทำลายลงไป ให้ทันและให้งอกเงยขึ้น ถ้าเกิดในตัว นั้นยังไม่ แพ้ทางที่เอาชนะพยาธิก็มีมากขึ้น แต่ก็ไม่แน่นัก เพราะบางครั้งพยาธิมันก็มาด้วยกำลังแรงเกินกว่า แรงเกิด ที่มีมาก คนหนุ่มสาวหรือเด็กก็ตาย และตายได้มากเหมือนกัน การต่อสู้ระหว่างคนกับพยาธิจึงเป็นการต่อสู้ด้วยแรง ทางฝ่ายคนมีหมอมียาเป็นกำลังหนุน ทางฝ่ายพยาธิมีชราเป็นแรงหนุน ใครแรงมากก็ชนะ คนที่แพ้พยาธิก็ต้องตายทุกคนไป ชาติ ชรา พยาธิ มรณะ นั้นมีอยู่ในตัวเราทุกเมื่อ ตามปกติมันรวมๆ กันอยู่มองไม่เห็นเด่นชัด แต่เมื่อเจ็บใกล้จะตาย หากยังมีสติอยู่แล้วใช้สตินั้นเป็นเครื่องช่วยให้จิตเพ่งไปที่สิ่งเหล่านี้ ก็จะมองเห็นมันแยกกันออกแล้วยืนให้เห็นโดดๆ..."