ต่อจากฉบับเมื่อวาน สำหรับข้อคิดจาก พระอธิการไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต ที่เผยแพร่ใน Youtube zen sukato ธรรมะสั้นๆก่อนอาหารเช้า เรื่อง “กินเจรักษาใจ” วันที่ 7 ตุลาคม 2564 มาเผยแพร่ต่อดังนี้
“…แต่ว่าก็มีญาติโยมเห็นว่าท่านถือเคร่งมังสวิรัติ ก็เลยทำอาหารมังสวิรัติโดยเฉพาะให้ ต้องใช้ความพยายามมากในการจัดตระเตรียมเพราะชาวบ้านก็ไม่ค่อยคุ้นกับอาหารมังสวิรัติ ทำถวายท่านได้ทุกวัน เวลาท่านไปตักอาหารทุกเช้า เวลาเห็นอาหารมังสวิรัติบนโต๊ะ ท่านบอกว่าท่านจะเกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของอาหารมังสวิรัติถาดนั้น
แล้วท่านจะถือสิทธิ์ตักอาหารมังสวิรัติมากกว่าคนอื่น เพราะว่าคนอื่นเขามีอาหารอื่นฉันได้ กินปลากินไก่ แต่ว่าท่านฉันอาหารอื่นไม่ได้ ฉันได้แต่อาหารมังสวิรัติที่ชาวบ้านเตรียมให้ เพราะฉะนั้นท่านถือสิทธิ์ว่าเรามีสิทธิ์ตักอาหารมังสวิรัติจานนี้ถาดนี้มากกว่าคนอื่น ท่านก็ทำอย่างนี้ทุกวันๆ
แต่แล้วมีวันหนึ่งมีพระที่พรรษามากกว่า ไปตักอาหารมังสวิรัติที่ท่านหลวงพ่อสุเมโธถือว่าเป็นของท่าน แล้วตักเย่อะด้วย เหลือให้ท่านซึ่งมาทีหลังไม่มากนัก ก็ไม่พอใจ แล้วก็เป็นอย่างนี้ทุกวันๆ ท่านโกรธมากเลยท่านบอก มาแย่งอาหารมังสวิรัติของท่าน อาหารอื่นมีไม่ตัก มาตักของท่าน โกรธมาก ตอนหลังก็หาทางแก้เผ็ด หรือว่าแก้แค้น
มีวันหนึ่งท่านตักน้ำพริกผสมปลาร้าเยอะแยะ เตรียมเอาไว้ พอเดินผ่านพระรูปนี้ ก็เอาน้ำพริกผสมปลาร้าเทลงไปในบาตรของพระรูปนั้น จนเหม็นคุ้งเลย ท่านก็รู้สึกสะใจ แต่แล้วก็มาได้คิดว่าเอ๊ะ นี่เราจะทำอย่างนี้เชียวหรือ ทำไมเราเอาอาหารมังสวิรัติมาเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เรามาบวชพระหรือมีชีวิตอยู่เพื่ออาหารมังสวิรัติเท่านั้นหรือ ทำไมเราให้อาหารมังสวิรัติมาเป็นใหญ่ถึงขนาดนี้
ท่านเล่าว่า ตอนที่ท่านโกรธ ยังดีที่มีวินัยพระห้ามต่อยตีกัน ไม่เช่นนั้นท่านก็คงจะวางมวยกันแล้ว พอได้คิดแบบนี้ว่าเรามีความโกรธได้ขนาดนี้พอมีคนมาตักอาหารมังสวิรัติไปจากเรา ท่านได้คิดเลยว่า นี่เรายึดมั่นถือมั่นมากไปแล้ว ท่านก็เลยเริ่มปล่อยวาง
อันนี้ก็เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่กินเจฉันเจมังสวิรัติ ถ้าฉันหรือกินด้วยึวามยึดมั่นถือมั่นมาก มันก็เกิดโทษต่อจิตใจ แล้วก็ต่อความสัมพันธ์ก็ได้ มังสวิรัติเป็นของดี เจก็เป็นของดี แต่ถ้ายึดมั่นถือมั่นมาก ก็กลายเป็นผลเสียได้ อย่างที่พูดมาหลายครั้ง รวมทั้งเมื่อวานที่พูดถึงความดีหรือสิ่งดีๆถ้าเรายึดมั่นมากนี่ มันก็กลายเป็นโทษ
เช่นเดียวกันกับมังสวิรัติ ถึงกับอยากจะทำร้ายคนอื่นเพราะว่าแย่งอาหารมังสวิรัติของเราไป อันนี้มันก็ผิดแล้ว ก็จัดว่าเป็นสีลัพพตปรามาสอย่างหนึ่ง การกินเจก็ถือว่าเป็นเรื่องของศีล ถ้ายึดมั่นถือมั่นมากมันก็เป็นสีลัพพตปรามาส ก็เป็นอุปสรรคต่อการสร้างความเจริญงอกงามในทางจิตใจ หรือว่าถึงขั้นพ้นทุกข์ เพราะฉะนั้นเวลากินมังสวิรัติก็ให้ดูแลจิตใจของตัวเองด้วย อย่าไปยึดมั่นถือมั่นมาก ไม่ว่าอะไรก็ตาม ถ้ายึดมั่นถือมั่นแม้จะดีแค่ไหน สุดท้ายก็กลายเป็นโทษ” (จบ)