จังหวะการเมืองเริ่มขยับเพื่อรุกคืบเข้าแดนฝ่ายตรงข้าม เมื่อพบว่าในยามที่สถานการณ์ของ พรรคก้าวไกล ตกเป็นรอง แต่สำหรับ พรรคเพื่อไทย กลับพลิกเข้าสู่โหมด เดินหน้าเปิดแนวรบทั้งในภาคการเมือง ควบคู่ไปกับการยึดฐานที่มั่น ทำเนียบรัฐบาล !
การปรากฏตัวของ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ไม่ได้ถูกจำกัดเอาไว้ที่ทำการพรรคเพื่อไทยอีกต่อไป แต่น่าสนใจว่า แพทองธาร ไปเยือนทำเนียบรัฐบาล อย่างเป็นทางการ โดยมี สถานะ มีตำแหน่ง และมีภารกิจอย่างชัดเจน
การประชุมคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ นัดแรกเมื่อวันที่ 3 ต.ค.66ที่ผ่านมา ทำเอาบรรยากาศการเมืองฮือฮา ไม่น้อย เมื่อแพทองธาร เข้าร่วมประชุมกับ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ในฐานะที่แพทองธาร มีตำแหน่งเป็นรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ
และดูเหมือนว่าสาระในการประชุมคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ ครั้งที่ 1 จะไม่เท่ากับการอ่าน สัญญาณทางการเมือง ว่าการปรากฏตัวของแพทองธาร คือสัญลักษณ์แทน พ่อ คือ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ด้วยหรือไม่
การรุกคืบเข้าทำเนียบฯ ด้วยสถานะที่ชัดเจนในฝ่ายบริหารกำลังไล่ล้อไปกับการที่เธอเอง ได้รับการสนับสนุนจากคนในพรรคเพื่อไทย ว่ามีความพร้อม มีความเหมาะสม ทุกประการ ที่จะก้าวขึ้นไปนั่ง หัวหน้าพรรคคนใหม่ เมื่อภายหลังจากที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ได้ลาออกไปก่อนหน้านี้
ทั้งนี้เสียงสนับสนุนจากคนในพรรคเพื่อไทย ที่มีต่อแพทองธาร ย่อมไม่อาจทำให้มีการโยนชื่ออื่นๆเข้ามาเทียบ เพราะทุกคนย่อมรู้ดีว่า แพทองธาร คือ ตัวแทน จาก เจ้าของพรรคตัวจริง อยู่แล้ว
และแน่นอนว่า เมื่อชื่อของแพทองธาร ถูกพูดถึง ในฐานะ ว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ ย่อมส่งผลในทางบวกและลบ ตามมาทันที !
ผลในทางบวก คือขวัญและกำลังใจจากคนในพรรคที่จะมั่นใจได้ว่า มี ชินวัตร ก็ยังมี พรรคเพื่อไทย ขณะเดียวกันอย่าลืมว่าผลในทางลบ ที่ตัวอุ๊งอิ๊ง ย่อมเลี่ยงได้ยาก คือการตกเป็น เป้าโจมตี ทางการเมือง ไปด้วยโดยปริยาย !