ทีมข่าวคิดลึก แม้แกนนำระดับหัวแถว ที่ "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรีให้ความไว้วางใจ อย่าง "ภูมิธรรมเวชยชัย" รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้ออกมายืนยันว่าวันนี้ภายในพรรคไม่ได้มีปัญหาอะไร สมาชิกยังคงเหนียวแน่น แม้แกนนำหลายคนของพรรคจะเผชิญกับคดีด้วยกันหลายคน แต่ก็ดูเหมือนว่าเป็นการแสดงความมั่นใจที่อาจไม่เต็มร้อย ! คำตอบจากภูมิธรรม ที่ได้แสดงความเชื่อมั่น มีขึ้นเมื่อเขาถูกผู้สื่อข่าวถามถึงสถานการณ์ของพรรคเพื่อไทยว่าเวลานี้ ทุกอย่างยังคง "เหมือนเดิม"ใช่หรือไม่ ?! เหมือนเดิมทั้งในแง่ของความเชื่อมั่น ความมั่นใจของสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่พอจะมีความหวังว่าการต่อสู้ในสนามเลือกตั้งรอบหน้านั้น พรรคเพื่อไทยจะยังสามารถ "ครองแชมป์"เข้าวินเป็นพรรคอันดับหนึ่งได้เช่นเดิมหรือไม่ หรือเหมือนเดิมในประเด็นที่ว่าวันนี้สมาชิกของพรรคจะยังยืนหยัดกอดคออยู่ร่วมกัน โดยไม่มีใครคิด"สละเรือ" ก่อนถึงวันเลือกตั้งครั้งหน้าใช่หรือไม่ ? การเมืองในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน จากรัฐบาลทหาร โดย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไปสู่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง หากทุกอย่างเป็นไปตามโรดแมป ที่ คสช.วางเอาไว้ โดยใช้ "กติกาใหม่" ตามที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ได้เขียนเอาไว้โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการเขียนกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ด้วยกันอีก4 ฉบับก็ตาม ทว่านักการเมือง ไม่เฉพาะแต่เพียง พรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่รับรู้ ชะตากรรมของตัวเองว่าที่สุดแล้ว แม้จะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ แต่ "อำนาจคสช." ยังคงแข็งแกร่ง ครอบคลุม และกระชับเอาไว้ในทุกมิติเรียบร้อยแล้ว ! ยิ่งเมื่อหันกลับไปมองยังพรรคเพื่อไทย ในฐานะที่ยืนอยู่ขั้วตรงข้ามคสช.ซึ่งถือเป็น "กลุ่มอำนาจใหม่" และดูเหมือนว่าตัวเล่นของพรรค ล้วนแล้วแต่ "ติดบ่วงคดี" ด้วยกันหลายคน ทั้งคดีทุจริตในโครงการต่างๆ ไปจนถึงการถูกถอดถอน อันจะส่งผลต่อการมีคุณสมบัตีที่ขัดต่อกฎกติกาใหม่โดยปริยาย ! สถานการณ์พรรคเพื่อไทย เวลานี้ย่อมไม่ใช่ "หุ้นการเมือง" ที่น่าลงทุนเหมือนเมื่อครั้งวันวานในอดีตที่ผ่านมาเพราะการเผชิญหน้ากับคดีความและวิบากกรรมรอบด้าน ทั้งทางตรงและทางอ้อม ย่อมจะทำให้กลายเป็น "เงื่อนไข" ที่ทำให้ ส.ส.บางส่วนตัดสินใจ"ย้ายพรรค" ได้อย่างไม่ยากเย็นสภาวการณ์ที่บรรดานักการเมืองพรรคต่างๆ ใช้วิธี wait and see เฝ้ารอการขยับจาก คสช.ในช่วงการเมืองเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ ย่อมแตกต่างไปจากสมาชิกของพรรคเพื่อไทย อย่างชัดเจน เพราะสำหรับพรรคเพื่อไทยแล้วต้องถือว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ "ถูกต้อนให้จนมุม" มากกว่าที่จะเปิดทางให้เลือกหรือตัดสินใจย้ายพรรค กันตามปกติ อีกทั้งยังมีความชัดเจนว่า แม้หลังการเลือกตั้ง อำนาจของ คสช. ของกองทัพยังคงโดดเด่น ยืนระยะไม่ต่างไปจากเงาแห่งอำนาจ อีกทั้งยังมีแผนยุทธศาสตร์ชาติที่วางแผนการทำงานเอาไว้ด้วยกันถึง 20 ปี และยังไม่นับรวมประเด็นที่ว่า ที่สุดแล้วพรรคเพื่อไทยจะเหลือสมาชิกอีกกี่คน ที่รอดพ้นจากบ่วงคดีความและการถูกถอดถอน !