เสือตัวที่ 6
ท่ามกลางความสงบเงียบอย่างผิดปกติของสถานการณ์ในพื้นที่ปลายด้ามขวาน เหตุร้ายอันเกิดจากการลงมือก่อเหตุของกลุ่มกองกำลังติดอาวุธของขบวนการแบ่งแยกการปกครองในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีเหตุลดลงจนกระทั่งน่าสงสัยว่ากลุ่มแกนนำ นักคิดเชิงยุทธศาสตร์การต่อสู้ของขบวนการกำลังคิดและลงมือเดินเกมอะไรในการต่อสู้กับรัฐเพื่อบรรลุจุดหมายปลายทางคืออิสระในการปกครองกันเองของคนในพื้นที่ปลายด้ามขวานแห่งนี้ ด้วยเป็นทีเชื่อมั่นของหน่วยงานความมั่นคงของรัฐแล้วว่าบรรดากลุ่มขบวนการที่คิดและต่อสู้เพื่อแยกตัวเป็นอิสระจากการปกครองจากรัฐนั้นมีด้วยกันหลายกลุ่ม หากแต่กลุ่มที่มีศักยภาพและเป็นตัวหลักในการต่อสู้กับรัฐในขณะนี้ก็คือกลุ่มขบวนการแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปัตตานี (BRN) และแกนนำ นักคิดเชิงยุทธศาสตร์การต่อสู้ของ BRN ก็กำลังเดินเกมการต่อสู้ใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันอย่างเข้มข้น หาได้ลดละเลิกแนวคิดการต่อสู้กับรัฐอย่างสิ้นเชิงไม่
ด้วยสถานการณ์ที่การต่อสู้ด้วยอาวุธเพื่อก่อให้เกิดเงื่อนไขสภาวะการขัดแย้งกันด้วยอาวุธอย่างกว้างขวางระหว่างรัฐผู้กดขี่และปกครองกับคนกลุ่มน้อยเจ้าของพื้นที่เดิมนั้นไม่ประสบผลสำเร็จตามแผน แกนนำขบวนการแบ่งแยกการปกครองจากรัฐของกลุ่ม BRN จึงปรับยุทธศาสตร์ไปเป็นการต่อสู้ทางความคิด โดยมุ่งต่อสู้เอาชนะทางการเมืองเป็นหลัก และการต่อสู้เพื่อเอาชนะทางการเมืองที่มีผลสำเร็จมากที่สุดก็คือยุทธศาสตร์การต่อสู้เพื่อเข้ายึดกุมอำนาจรัฐระดับชาติให้ได้ก่อน เพราะนั่นคือศูนย์กลางอำนาจรัฐที่จะบันดาลให้เป้าหมายการต่อสู้เพื่อเป็นอิสระในการปกครองกันเองไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการปกครองแบบใดของพวกเขาประสบผลสำเร็จได้โดยง่าย และสถานการณ์ทางการเมืองระดับชาติที่เป็นโอกาสทองที่จะเอื้ออำนวยให้แผนการแยกการปกครองของกลุ่มขบวนการแบ่งแยกการปกครองของ BRN เป็นไปได้มากที่สุดในขณะนี้ที่มีการจัดคณะผู้ปกครองระดับชาติที่เรียกว่ารัฐบาลขึ้นมาใหม่ เป็นสภาวะของการแย่งชิงกันเพื่อเข้าสู่อำนาจรัฐของกลุ่มคนที่ต้องการเข้าไปเป็นที่ปรึกษาและคณะทำงานชุดต่างๆ ของผู้นำระดับสูงของรัฐบาล และหนึ่งในคนกลุ่มต่างๆ นั้น ก็มีกลุ่มคนที่เป็นแนวร่วมของขบวนการแบ่งแยกการปกครองจากรัฐ BRN ทั้งตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ กำลังหมายมั่นที่จะแอบแฝงแทรกปนเข้าไปเป็นหนึ่งในทีมงานของผู้ทรงอำนาจทางการเมืองอย่างแนบเนียน
ในขณะที่นักวิชาการและผู้บริหารระดับนำของหน่วยงานความมั่นคงของรัฐกำลังรอความชัดเจนของนโยบาย ทีมงานของผู้กำหนดนโยบายระดับชาติและทิศทางการขับเคลื่อนการต่อสู้กับขบวนการแบ่งแยกดินแดนที่มีกลุ่ม BRN เป็นตัวหลัก ซึ่งจะมีผลต่อระดับปฏิบัติในพื้นที่ตั้งแต่ระดับชาตินั่นคือ แผนยุทธศาสตร์การต่อสู้ระดับชาติโดยสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) สู่หน่วยงานต่างๆ ในระดับกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับยุทธศาสตร์การต่อสู้ของรัฐ จนถึงหน่วยงานความมั่นคงในระดับภูมิภาค ที่มีกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (กอ.รมน.ภาค 4) ที่จะต้องปรับแผนระดับปฏิบัติในพื้นที่ให้สอดคล้องกับนโยบายระดับชาติที่มาจากศูนย์กลางอำนาจรัฐอย่างแนบแน่น หากแต่ขบวนการแบ่งแยกการปกครอง BRN มีความชัดเจนและแน่วแน่ในการส่งคนที่มีแนวคิดแปลกแยกกับรัฐที่เป็นแนวร่วมอย่างไม่ได้ตั้งใจ เข้าไปเป็นหนึ่งในกลุ่มคนของผู้กุมอำนาจรัฐในกลุ่มการเมืองระดับชาติอย่างเป็นระบบ
ท่ามกลางความเป็นปกติของการต่อสู้แย่งชิงเข้าไปเป็นหนึ่งในทีมงานทางการเมืองระดับชาติ หากแต่มีความไม่ปกติในกระบวนการเหล่านั้นที่กำลังแอบแฝงเข้าไปสู่ทีมงานที่มีผลต่อการผลิตนโยบายต่างๆ ที่เอื้ออำนวยต่อการเป็นอิสระในการปกครองจากรัฐ นั่นก็หมายความว่า ขบวนการแบ่งแยกการปกครองจากรัฐโดยกลุ่ม BRN กำลังปรับกลยุทธ์การต่อสู้จากการต่อสู้ด้วยอาวุธในพื้นที่สู่การต่อสู้เพื่อยึดกุมอำนาจรัฐระดับชาติโดยเข้าสู่ศูนย์กลางอำนาจรัฐอย่างเป็นระบบและแยบยลยิ่ง จนกระทั่งหน่วยงานความมั่นคงแทบจะไม่สามารถเล็งเห็นปรากฏการณ์เข้าสู่ศูนย์กลางอำนาจรัฐที่กำลังเกิดขึ้นได้ ซึ่งนั่นกำลังเป็นช่องว่างและเป็นโอกาสทองของกลุ่มขบวนการร้ายแห่งนี้ที่กำลังคืบคลานเข้าสู้ชัยชนะในสมรภูมิการสู้รบปลายด้ามขบวานของพวกเขาอย่างน่ากังวลยิ่ง
นโยบายถอนกำลังทหาร-ตำรวจ และเจ้าหน้าที่รัฐออกจากพื้นที่ปลายด้ามขวานจะทำให้ขบวนการร้ายแห่งนี้ มีอิสระในการควบคุมพื้นที่โดยสมบูรณ์ นโยบายยกเลิกกฎหมายพิเศษทั้ง พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 และ พ.ร.บ. กฎอัยการศึก พ.ศ. 2457 ซึ่งจะทำให้อำนาจรัฐในการดูแลความมั่นคงในพื้นที่อ่อนแออันจะเปิดโอกาสให้ขบวนการร้ายแห่งนี้มีเสรีในการดำเนินการใดๆ ในพื้นที่ได้อย่างเป็นอิสระ นโยบายการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดจะทำให้ขบวนการแห่งนี้มีอำนาจการปกครองกันเองระดับภูมิภาคอย่างสมบูรณ์และอาจลุกลามไปสู่แนวคิดนโยบายให้พื้นที่ปลายด้ามขวานแห่งนี้เป็นเขตการปกครองพิเศษแบบอิสระโดยอ้างเขตปกครองรูปแบบพิเศษเช่นเดียวกับ กทม. และเมืองพัทยา ด้วยความชาญฉลาดจากมันสมองอันปราดเปรื่องของแกนนำ นักคิดของขบวนการแบ่งแยกการปกครองจากรัฐกลุ่ม BRN กลุ่มนี้ที่เห็นชัดเจนว่านโยบายระดับชาติย่อมมีผลต่อนโยบายและทิศทางในระดับปฏิบัติ หากกลุ่มใดสามารถเข้ายึดกุมอำนาจรัฐอย่างสมบูรณ์โดยเข้ามีอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบายระดับชาติโดยแย่งยึดเข้าสู่ศูนย์กลางอำนาจรัฐได้ ย่อมมีความได้เปรียบคู่ต่อสู้และมีโอกาสที่จะคว้าชัยชนะการต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย