สึนามิจากการเลือกตั้ง สส.กระทบถึงหลายพรรคการเมืองทำให้ต้องพากัน ปรับทัพ เพื่อรับมือและปิดจุดอ่อน แก้ไขทุกความผิดพลาด จนทำให้หลายพรรคต้องเสียเก้าอี้สส. เสียคะแนนนิยมที่เคยมีถึงขั้นทรุดฮวบ ไม่ว่าจะเป็น พรรคใหญ่  พรรคเก่าแก่ 


 พรรคเพื่อไทย แม้จะเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และวันนี้ได้พลิกเกมจาก ฝ่ายค้าน ไปสู่ รัฐบาล แล้วก็ตาม  แต่ในความเป็นจริงแล้ว พรรคเพื่อไทยยังต้อง เร่งปรับทัพ  หา หัวหน้าพรรคคนใหม่แทน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ที่ต้องประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค   


 ชื่อของ อุ๊งอิ๊งแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ถูกพูดถึงมากที่สุดในฐานะ ว่าที่หัวหน้าพรรคคนใหม่ โดยที่ไม่มีชื่ออื่น ถูกโยนเข้ามาสู้  ซึ่งล่าสุดเมื่อวันประชุมสมาชิกพรรคเพื่อไทย ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา แพทองธาร บอกแล้วว่าเธอเองก็มีความพร้อมที่จะทำงานเพื่อพรรค 


 หมายความว่าแม้แพทองธาร จะไม่พูดออกมาตามตรง ว่าพร้อมจะรับไม้ต่อ ในฐานะ หัวหน้าพรรคคนใหม่ แต่อย่างน้อยที่สุด สมาชิกพรรคเพื่อไทย ก็ยังมีลุ้น ว่าลูกสาวคนสุดท้อง ของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งมีอิทธิพล ต่อพรรคเพื่อไทย จะลงมานั่งคุมทัพเพื่อไทยด้วยตัวเอง


 ขณะที่พรรคก้าวไกล แม้จะได้สส.เข้าสภาฯมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่ด้วย เงื่อนไขของรัฐธรรมนูญที่มี 250สว. เป็น กลไก สำคัญ และพรรคก้าวไกลไม่สามารถ ฝ่าด่าน มาได้สำเร็จ  จนล่าสุด พรรคไม่อาจรอให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ กลับเข้าสภาฯ จะมีขึ้นเมื่อใด ที่สุดแล้ว ที่ประชุมพรรคจึงต้องมีมติเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ ผลออกมาคือ ชัยธวัช ตุลาธน พาสชั้นจาก เลขาฯพรรค ขึ้นมาเป็นผู้นำพรรคคนใหม่ 


 ทางด้านพรรคประชาธิปัตย์เอง ดูเหมือนว่าเป็นพรรคการเมืองที่เจอกับมรสุมหนักหนาสาหัสมากกว่าใครเพื่อน ! 
 เพราะไม่เพียงแต่จะต้องสูญเสียที่นั่งสส. จนเหลือเพียง 25 สส.เข้าสภาฯเท่านั้น แต่ยังปรากฏว่า วันนี้ พรรคยังไม่สามารถเลือก หัวหน้าพรรคคนใหม่ ได้ ส่งผลให้ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์  ยังคงนั่งรักษาการหัวหน้าพรรค จนถึงเวลานี้ 
 

จุรินทร์ ตอบคำถามสื่อถึงความคืบหน้าในการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนด รอจูนกันอีกนิด จูนเสร็จเมื่อไหร่ก็จะเลือก แต่ทั้งนี้จะไม่ให้เรื่องของการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องภายในพรรค กระทบต่อการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน หรือกระทบต่อการทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลแทนประชาชน

 ปัญหาภายในพรรคประชาธิปัตย์ ดูจะมีความขัดแย้ง และพร้อมที่จะลุกลาม กลายเป็นระเบิดเวลา ถล่มพรรคได้ทุกเมื่อ หากเมื่อใดที่มีการเปิดประชุมพรรคอย่างเป็นทางการขึ้น เพราะจนถึงวันนี้ สองขั้วการเมือง ภายในพรรค ระหว่าง กลุ่มเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรค กับ ขั้วอดีตหัวหน้าพรรค ยังอยู่ในสภาวะที่เรียกว่า จูนกันไม่ติด   สถานการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ จึงอึมครึม คุกรุ่น และยากที่จะไปต่อ ได้อย่างที่เห็น !