จับตา กัญชา ทำพิษ ! 

 จากการให้สัมภาษณ์ของ นพ.ชลน่าน ศรีน่าน รมว.สาธารณสุข จากพรรคเพื่อไทย  ระบุชัดเจนว่า จะมีการปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง จากร่างกฎหมายเดิมที่เสนอโดยพรรคภูมิใจไทย จะเน้นให้ใช้กัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ ไม่ให้มีการใช้เพื่อสันทนาการ

 นอกจากนี้ นพ.ชลน่าน ยังไม่อนุญาตให้มีการปลูกบ้านละ 15 ต้น รวมทั้งจะออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข นำบางส่วนของกัญชากลับมาเป็นยาเสพติดนั้น  กำลังถูกจับตามองว่า ประเด็นนี้จะกลายเป็น รอยร้าว ระหว่าง พรรคเพื่อไทยกับพ รรคภูมิใจไทย ตามมาหรือไม่ 

 เพราะอย่าลืมว่า พรรคภูมิใจไทย นั้นชูนโยบายเรื่องกัญชา จนกลายเป็นเหมือนสัญลักษณ์ ของพรรคไปแล้ว ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งเมื่อเดือนพ.ค. 2566 ที่ผ่านมา แม้พรรคภูมิใจไทยจะถูกโจมตีจากหลายพรรคการเมือง ทั้งในและนอกสภาฯอย่างหนัก 

 ทั้งเหตุผลที่ว่าเป็นการมอมเมาเยาวชน เปิดทางให้เข้าถึงกัญชา  กันได้อย่างง่ายดาย ผู้ปกครองเดือดร้อนกันไปทั่วหน้า  แต่อีกด้านหนึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า มีไม่น้อย ที่พอใจและสนับสนุนแนวนโยบายของพรรคภูมิใจไทย 

 และหากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้จะพบว่า ประเด็นเรื่องการผลักดันนโยบายกัญชาของพรรคภูมิใจไทย จะสะดุดหรือไม่ ตั้งแต่เมื่อครั้งที่พรรคเพื่อไทย ส่ง เทียบเชิญพรรคภูมิใจไทยให้เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล 314เสียง  หลังจากที่พรรคเพื่อไทย ประกาศ แยกทาง กับ พรรคก้าวไกล 

 แต่แล้ว พรรคภูมิใจไทย โดย อนุทิน ชาญวีรกูล  หัวหน้าพรรค ได้ตัดสินใจนำพรรคภูมิใจไทยเข้าร่วมรัฐบาล ท่ามกลาง กองเชียร์สายเขียว ว่ารัฐบาล เศรษฐา1 จะเอาอย่างไรกับเรื่องนโยบายกัญชา และจะกระทบต่อพรรคภูมิใจไทยตามมาหรือไม่ 

 เมื่อนพ.ชลน่าน ในฐานะเจ้ากระรวงสาธารณสุข ออกมาประกาศแนวทางที่ชัดเจนในวันประชุมครม.ครั้งล่าสุด เมื่อ26 ก.ย.ที่ผ่านมาว่าจะปรับปรุง ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง เน้นให้ใช้กัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ ไม่ให้มีการใช้เพื่อสันทนาการ ทำให้หลายฝ่ายพากัน จับตามองว่าที่สุดแล้ว พรรคภูมิใจไทย จะมีปฏิกิริยาอย่างไร กลับมา !

 ทั้งนี้มีรายงานว่า พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล มีความมั่นใจว่า แรงต้าน จากพรรคภูมิใจไทยต่อเรื่องนี้จะไม่มีความแรง ที่มากพอหรือ จงใจ ถึงขั้น งัดข้อ กับพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่เมื่อเริ่มต้น ครม.เศรษฐา1 เพราะดูเหมือนว่าพรรคภูมิใจไทยเอง มีเป้าหมายใหม่ที่อยู่ในแผนการสร้างผลงาน ที่จะต้องไปโฟกัส  โดยเฉพาะงานที่กระทรวงมหาดไทย ที่จะสามารถสร้างได้ทั้ง ชื่อเสียงและผลงาน 

 ดังนั้นโอกาสที่จะได้เห็นภูมิใจไทย เปิดศึกกับเพื่อไทย จึงยังไปไม่ถึงจุดนั้น !