สุมไฟการเมือง ! 

 เรื่องร้อนๆ มาตามนัด เมื่อก่อนถึงวันโหวต พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะว่าที่นายกฯ คนที่ 30 ปรากฏว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยคุณสมบัติของพิธา

 
 ภายหลังจากที่ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีหลักฐานปรากฏว่า พิธา  เป็นผู้ถือหุ้นสื่อ  ในวันสมัครรับเลือกตั้ง อันเป็นลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 82 วรรคสี่  ภายหลังจากที่กกต.พิจารณาเรื่องดังกล่าวแล้ว เห็นว่า สมาชิกภาพของพิธา มีเหตุสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 101

 เมื่อกกต.ขยับ ส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย  และเมื่อเรื่องไปยังถือศาลรัฐธรรมนูญเรียบร้อยแล้ว ศาลจะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาก่อนส่งเรื่องไปยังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ต่อไป ซึ่งต้องมาลุ้นกันต่อไปว่า  ศาลจะมีคำสั่งอย่างใด อย่างหนึ่งออกมาหรือไม่ โดยเฉพาะสิ่งที่พรรคก้าวไกล และพิธา กังวลมากที่สุดคือการสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ 

 แต่จะให้พรรคก้าวไกล นิ่งเฉยโดยไม่มีปฏิกิริยาใดๆ คงไม่ใช่ ! เมื่อปรากฏว่า แกนนำพรรคก้าวไกล ดาหน้ามาแถลงข่าวตอบโต้กกต.กับสิ่งที่เกิดขึ้นว่าไม่ต่างจากการใช้ นิติสงคราม มาสกัดไม่ให้พิธา เข้าไปเป็นนายกฯ เข้าใกล้ศูนย์อำนาจรัฐ แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จะไม่มีผลต่อการโหวตนายกฯ ในวันนี้อย่างแน่นอน 

 การประชุมรัฐสภา วันนี้ตามกรอบที่ วิป3ฝ่าย ได้สรุปร่วมกันเอาไว้คือการเปิดพื้นที่ให้สมาชิกทั้งส.ส.และส.ว.ได้ใช้สิทธิ อภิปรายกันอย่างเต็มที่ จากนั้นจะไปลงมติโหวตเลือกนายกฯในเวลา 17.00 น. ซึ่งไม่การันตีได้ว่า การโหวตจะลุล่วงลงได้ในเวลากี่โมง หรือจะมีเหตุวุ่นวาย จนถึงขั้นต้องปิดการประชุมไปในที่สุด !  

 ความวุ่นวายในที่ประชุมรัฐสภา ถูกจับตามองว่า จะล้อไปกับการเคลื่อนไหวที่หน้ารัฐสภา จากผู้ชุมนุมสารพัดม็อบที่เป็น กองเชียร์พิธาด้วยหรือไม่  แม้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ได้เตรียมความพร้อมรับมือผู้ชุมนุมเอาไว้ทุกทาง โดยเฉพาะพื้นที่โดยรอบหน้ารัฐสภา เกียกกาย เอาไว้ก็ตาม 

 แต่อย่าลืมว่าการชุมนุมของมวลชนที่นำหน้าโดยม็อบราษฎร ที่ผ่านมา จะใช้วิธี ดาวกระจาย นักลักษณะแฟลชม็อบ เน้นการปรากฏตัวมาทำกิจกรรมรวดเร็ว และสลายตัวในเวลาไม่นาน

 การประชุมรัฐสภาวันนี้ ทั้งส.ส.และส.ว.ที่ทุ่มเถียงยกประเด็นเรื่องข้อกฎหมาย และคุณสมบัติของพิธา มาเป็นเงื่อนไขในการตัดสินใจที่จะโหวตหรือไม่โหวตนั้น ย่อมจะถูกเชื่อมโยงกับความเคลื่อนไหวนอกสภาฯ ให้พร้อมจะ แรงขึ้นโดยไม่ต้องเดา !