สารจากใจ พิธา !

 กว่าจะไปถึงวันโหวตเลือก นายกฯคนที่ 30 ปฏิเสธไม่ได้ว่าบรรยากาศการเมืองรอบด้าน เต็มไปด้วยความตึงเครียด !
 
โดยเฉพาะในฟากของ พรรคก้าวไกล ที่ต้องเดินไปให้ถึงเป้าหมาย คือการส่ง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ขึ้นเป็น นายกฯคนใหม่  ต่อจาก บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สำเร็จ และเหนืออื่นใด คือการ ปิดทาง ปฏิบัติการตั้งรัฐบาลแข่ง จากขั้วการเมืองใดก็ตาม ที่ต้องการส่ง พรรคก้าวไกล ไปนั่งทำหน้าที่ ฝ่ายค้าน ในสภาฯ 
 
การโหวตในที่ประชุมรัฐสภา ที่มีสมาชิกทั้งสิ้น 750 คน พิธา จะต้องได้ 376 เสียง จึงจะผ่านเข้าไปนั่งนายกฯคนที่ 30 ได้อย่างฉลุย แต่จนถึงวันนี้ กลับยังไม่มีสัญญาณ ทางบวก ที่บ่งชี้และการันตีได้ว่า วุฒิสมาชิก จะเทคะแนนหนุนพิธา ได้จนครบ 64 เสียง หรือมากกว่านั้น เพื่อไปบวกกับ 312เสียง ที่มีอยู่เดิมในมือ 8พรรคร่วมรัฐบาลเสียงข้างมาก 
 
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากการสอบถามในที่ประชุม 8 แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล (11 ก.ค.66) นั้น ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ในฐานะ มือดีล  ยังไม่ได้ระบุ จำนวนส.ว.ที่จะยกมือสนับสนุนพิธา ว่ามีเท่าใด บอกเพียงแค่ว่า อยู่บนพื้นฐานความพยายามที่จะประสาน  และหาเสียงหนุนให้ได้มากที่สุด 

 ขณะที่เสียงจากส.ว.ว่าจะโหวตให้พิธา มากน้อยเท่าใด จะดันตัวเลขไปถึง 64 เสียงหรือไม่ กลับพบว่า ปัญหาเรื่อง คุณสมบัติ ของพิธา ที่ยังอยู่ในการพิจารณาของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ปมหุ้นไอทีวีก็ยังไม่ได้ข้อยุติ และหากกกต. พิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว จะส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ก็จะเป็นคำถามให้ ทั้งส.ส.และส.ว. คิดต่อไปอีกว่า จะโหวตให้หรือไม่ ในวันที่ 13 ก.ค. เพราะหากศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้ พิธา  หยุดปฏิบัติหน้าที่ ตามที่มีการคาดการณ์กันเอาไว้แล้ว สมาชิกรัฐสภา จะเลือกทางไหน 

 หมายความว่าเวลานี้อุปสรรคก่อนถึงวันโหวตนายกฯ ล้วนเป็นปัญหาใหญ่ และปัญหาใหม่ สำหรับพรรคก้าวไกลและตัวพิธา ทั้งสิ้น 

 ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา พิธา ได้ส่งสาร ถึง ส.ส.และส.ว. ด้วยความตั้งใจ โดยทำเป็นคลิปวีดีโอ ผ่านหน้าเฟซบุกส่วนตัว หลักใหญ่ใจความคือการ ขอให้สมาชิกรัฐสภาเลือกเขาเป็นนายกฯ เพราะถือเป็นการให้โอกาสรัฐบาลเสียงข้างมาก เท่ากับให้โอกาสประเทศเดินหน้าได้ต่อไป 
 
 ในโอกาสนี้ผมขอสื่อสารไปถึงประชาชน เราผ่านวันเลือกตั้งมาแล้ว แต่ภารกิจยังไม่สำเร็จ การเปลี่ยนแปลงประเทศจะเกิดขึ้นไม่ได้ หากไม่มีรัฐบาลเสียงข้างมากที่จะนำพาประเทศไปสู่ข้างหน้า ผมพร้อมแล้วที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีของทุกคน