ไทม์ไลน์วันเลือก ประธานสภาฯ อาจมีอันต้อง ขยับ ออกไป อันเป็นผลสืบเนื่องมาจาก ความไม่ลงตัว ระหว่าง 2พรรคใหญ่ แกนนำตั้งรัฐบาล ทั้ง พรรคเพื่อไทย กับ พรรคก้าวไกล ที่ยังเปิดศึก พลิกเกม กันไปมา ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.66 ที่ผ่านมา พรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ลงนามในหนังสือแจ้งสมาชิกรัฐสภาทั้ง ส.ส.และ ส.ว.ขอเชิญเข้าร่วมพิธีเปิดประชุมรัฐสภาวันที่ 3 ก.ค.เวลา 17.00 น. ณ ห้องโถง พิธีชั้น 11 อาคารรัฐสภา
แต่ยังไม่มีการทำหนังสือเชิญประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณา วาระการเลือกประธานสภาฯ ตามกำหนดเดิม 4 ก.ค.เดิมที่วางไว้เป็นกำหนดวันประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรก มีรายงานว่า สภาฯ ขอประเมินสถานการณ์ความพร้อมในการเลือกประธานสภาฯ อีกครั้งก่อน เนื่องจากขณะนี้ทั้ง 2 พรรคที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ทั้งพรรคตก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ยังไม่ลงตัวในตำแหน่งดังกล่าว
อาการยื้อยุด ยึกยัก ไม่ลงตัวว่า ตำแหน่งประธานสภาฯ จะต้องเป็นของพรรคใด แต่ขณะเดียวกันกลับปรากฏความเคลื่อนไหว ว่าพรรคก้าวไกลเอง อาจจะไม่ยอม ถอย ให้กับพรรคเพื่อไทย ไม่เช่นนั้น คงไม่โยนชื่อ ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล มาชิงตำแหน่งประธานสภาฯ กับพรรคเพื่อไทย จนทำให้แกนนำพรรคเพื่อไทย อย่างอดิศร กราดเกรี้ยว ตะโกนใส่ว่า ไม่มีมารยาท เพราะชิง ลักไก่เสนอชื่อ คนชิงประธานสภาฯ ทั้งที่ยังไม่มีข้อสรุป
สถานการณ์ทางการเมืองวันนี้ ไม่อาจมองได้เพียง ขั้วอำนาจใหม่ ที่ประกอบด้วย 8พรรคร่วม 312 เสียง ที่มีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำเท่านั้น เนื่องจากหากความขัดแย้งเรื่องประธานสภาฯ ยิ่งยืดเยื้อ ออกไป ย่อมไม่เป็นผลดีโดยไม่ต้องคาดเดา
อย่าลืมว่า ในระหว่างที่ 2พรรคใหญ่ยังเปิดเกมชิงเก้าอี้ประธานสภาฯ กันอย่างดุเดือด กลับมีความเคลื่อนไหวจาก ขั้วรัฐบาลเดิม โดยเฉพาะ พรรคพลังประชารัฐ ที่มี บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรค ถูกจับตามอง ว่า ชื่อของบิ๊กป้อม จะเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในฐานะ แคนดิเดตนายกฯ ต่อไปหรือไม่ เมื่อ พรรคก้าวไกลเสนอชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่ผ่านด่าน 250 ส.ว. ไม่ว่าจะผ่านการโหวตกี่ครั้งก็ตาม
และอย่าลืมว่าหากการเมืองในปีก 8พรรคร่วมฯยังไม่ขยับเดินหน้า ข้ามความขัดแย้งตำแหน่งประธานสภาฯ ไปได้แล้ว โอกาสย่อมจะเป็นของ คนนอก ที่รอส้มหล่น แม้ภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้า ว่า แกนนำ ในปีกรัฐบาลเดิม ปฏิเสธกันอย่างแข็งขันก็ตาม !