เวลานี้ดูเหมือนว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต. ได้กลายเป็น ตำบลกระสุนตก  เมื่อบรรดากองเชียร์ พรรคก้าวไกล  และ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เริ่มหวั่นใจว่าเส้นทางสู่ทำเนียบรัฐบาลกำลังเจอกับอุปสรรคใหญ่ 
 

และยังอาจกลายเป็นจุดพลิกผันที่นอกจะทำให้การตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากไม่สำเร็จ สะเด็ดน้ำได้แล้ว โอกาสที่จะมีการเปลี่ยนตัว นายกฯคนที่ 30  เก้าอี้ผู้นำรัฐบาลหลุดมือพิธา ใช่ว่าจะไม่เกิดขึ้น ! 

 เมื่อกกต.ยังไม่ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค.66 ที่ผ่านมาอย่างเป็นทางการ แม้ล่าสุดจะมีเอกสารหลุดออกมาจากที่ประชุมกกต.ชี้เป้าว่า ส.ส.ไฟเขียว รับรอง 329 เขต  ให้ได้เป็นส.ส.ใหม่ แต่มีการ แขวน อีก 71 คน ก็ตามที ยังพบว่าไม่ใช่ตัวเลขที่จะทำให้จำนวนส.ส.ได้รับรองร้อยละ 95 หรือ 475 คนเพื่อนำไปสู่การเปิดประชุมสภาฯ ไปจนถึงการผลักดันให้มีการเปิดรัฐสภาเพื่อโหวตนายกฯ ได้ 

 เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมาปรากฎว่า กลุ่มไอลอว์ และกลุ่มทะลุฟ้า  ได้เดินทางมาเพื่อติดตาม และทวงถามความคืบหน้า ในการรับรองส.ส. และการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ

  ตอนนี้นานเกินไปแล้ว ยิ่งนาน จะยิ่งทำให้ก่อให้เกิดความอึดอัด และความเคลือบแคลงสงสัยของประชาชน ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) ระบุกับสื่อ 
 

เช่นเดียวกับการที่ ทนายอานนท์  หรือ อานนท์ นำภา แกนนำคณะราษฎร  โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุคส่วนตัว เตือนไปยังใครก็ตามที่คิดจะ ยื้อ หรือ ยึดอำนาจ ให้ทบทวนด้วยว่า มีมวลชนที่พร้อมจะลงถนนมาเคลื่อนไหว

 เผื่อเอาไปประกอบการตัดสินใจถ้าจะเลือกแนวทางยื้อหรือยึดอำนาจ คนสนับสนุนก้าวไกลใน กทม.และปริมณฑลหลายล้าน ลงถนนเขานัดกันตามแนวรถไฟฟ้าเหมือนตอนตุลา 63 ใช้เวลา 15-20 นาที พรึบ! 

 อย่างไรก็ดีการเคลื่อนไหวโดยยึดเอา ท้องถนน หรือ หน้าสภาฯ เป็นชัยภูมิเพื่อกดดัน ขั้วอำนาจเก่า ไม่ว่าจะเป็น รัฐบาลรักษาการ,  กองทัพ ,ส.ว. ไปจนถึงมวลชนทีประกาศตัวปกป้องสถาบัน จากฝ่ายสนับสนุนพรรคก้าวไกล และพิธา นั้นอาจไม่ใช่ ทางเลือก ที่ดีนัก 
 

เพราะอย่าลืมว่าวันนี้ ฝ่ายความมั่นคง ใช่ว่าจะไม่มี แผนรองรับ แต่อย่างใด และเหนืออื่นใดเมื่อความวุ่นวาย เกิดขึ้น ย่อมเป็น โอกาสที่จะนำไปสู่การ กระชับอำนาจ จากรัฐบาลรักษาการได้ทุกเมื่อ และอย่างชอบธรรม !