ทุกปฏิกิริยา ของ บิ๊กเนม ในขั้ว รัฐบาลรักษาการ ที่มีต่อจังหวะการเมืองไทยที่คล้ายกับว่า ติดล็อค ไปเสียทุกทาง เพราะแม้เวลานี้ 8พรรคการเมือง ที่ประกาศตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก 312 เสียง กลับยังอยู่ในสภาพที่เรียกว่า หายใจไม่ทั่วท้อง การประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา น่าสนใจว่า ทุกการตอบคำถามของ คีย์แมน ในรัฐบาลล้วนออกมาในทิศทางเดียวกัน นั่นคือเอาใจช่วยให้ พรรคก้าวไกล ทำหน้าที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์สื่อปฏิเสธข่าวเรื่อง ดีลลับ กับใครทั้งสิ้น รวมถึงเรื่องดีลรัฐบาลชนิด ข้ามขั้ว  พล.อ.ประยุทธ์ บอกเลยว่าไม่ได้ยุ่งเกี่ยวทางการเมือง 
  
ไม่ทราบ ผมไม่ทราบ ผมไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของการเมือง เรื่องการเป็นรัฐบาลไม่ใช่เรื่องของผม นั่นเป็นกลไกที่จะพูดกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามรัฐธรรมนูญ ตามกฎหมายที่มีอยู่ ผมไม่เกี่ยว ผมเป็นรัฐบาลรักษาการดูแลพี่น้องประชาชนของเราและขับเคลื่อนแผนงานโครงการต่างๆที่ทำได้ เพราะประชาชนมีความเดือดร้อนอยู่หลายๆมิติด้วยกัน ดูแลประชาชนดีกว่า อันนั้นการตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องของกระบวนการก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการ (6 มิ.ย.66) 
 
ขณะที่ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ตอบคำถามสื่อกรณีที่ว่าการเมืองจะตีบตันหรือไม่ในการจัดตั้งรัฐบาล นั้นต้องให้กำลังใจ พรรคภูมิใจไทยยังทำตามที่พูดไว้เสมอ เราต้องให้พรรคมีคะแนนเสียงมากที่สุดได้จัดตั้งรัฐบาล 
 ส่วน บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ  เลือกที่จะไม่ตอบทุกคำถาม ในประเด็นการเมือง  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีลลับ หรือการตั้งรัฐบาลข้ามขั้วก็ตาม
 
สถานการณ์ทางการเมืองวันนี้ คล้ายกับว่าทุกทางติดล้อค ติดกับดักไปหมด เพราะแม้8พรรคจะประกาศตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก แต่การโหวตชื่อ นายกฯคนที่ 30 จนถึงนาทีนี้กลับเกิดความวิตกว่า ชื่อของพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยังคนเดิมหรือไม่ เพราะชื่อของพิธา ดูท่าว่าจะฝ่าด่าน ส.ว. ไปไม่ได้จนมีข่าวสะพัดว่า ที่สุดแล้ว ชื่อนายกฯคนที่ 30 อาจต้องเดินไปสู่ จุดเปลี่ยน ทั้งจากพรรคเพื่อไทย หรือแม้แต่การมองไกลกันไปถึง คนนอก  แล้วด้วยซ้ำ !