ในระหว่างทางที่ พรรคก้าวไกลŽ  และ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์Ž หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี สาละวนอยู่กับการ ผนึกกำลังŽ  ดึงเสียง8พรรคร่วมรัฐบาล ทั้ง313 เสียงให้เกาะกลุ่ม แน่นเหนียวกันเอาไว้ 
  

 แต่ปรากฏว่าอีกด้านหนึ่ง ยังปรากฏว่า มีความเคลื่อนไหวที่กำลัง เขย่าขวัญŽ ระลอกใหม่ซ้ำเข้ามา ทั้งคำร้องที่ส่งไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ให้ตรวจสอบคุณสมบัติของพิธา กรณีถือหุ้นสื่อไอทีวี จะทำให้กระทบทั้งกระดานตามมาหรือไม่ 
  

 แต่ล่าสุด วิษณุ เครืองามŽ รองนายกฯมือกฎหมายรัฐบาล ได้ออมมาระบุว่า หากในกรณีที่ พิธา เกิดปัญหาเรื่องคุณสมบัติจริง ต้องพ้นจากส.ส. แต่จะไม่กระทบต่อการเข้าไปนั่งในตำแหน่ง นายกฯคนที่ 30Ž เพราะคนที่เป็นนายกฯ ไม่จำเป็นต้อวมาจากส.ส.
  

 ทว่าประเด็นที่กำลังกดดันพรรคก้าวไกล ในช็อตต่อมาคือการที่วิษณุ ระบุว่า หากคุณสมบัติของพิธา ขัดต่อรัฐธรรมนูญ แต่ไปลงนามรับรอง ผู้สมัครส.ส.Ž ของพรรคก้าวไกล หากกกต.ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ แล้วหากมีคำวินิจฉัยออกมาในทางลบ ก็จะส่งผลต่อผู้สมัครส.ส.ของพรรค ก็อาจต้องมีการเลือกตั้งซ่อมกันใหม่ทั้งประเทศ ในส่วนของส.ส.ของพรรคก้าวไกล 
   

 อย่างในอดีตที่คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภรรยาของนายทักษิณ ชินวัตร  อดีตนายกรัฐมนตรี ไปกาลงคะแนน และมีคนไปถ่ายไว้ ซึ่งเกิดเหตุเพียงคูหาเดียว
     แต่ทำให้การเลือกตั้งครั้งนั้นโมฆะทั้งประเทศ ดังนั้นกรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน หากมีการเลือกตั้งซ่อมก็ต้องเลือกตั้งใหม่ทั้งประเทศŽ (31 พ.ค.2566) 
    ทั้งนี้รองนายกฯวิษณุ ขมวดเอาไว้ว่าเวลานี้กกต.ยังไม่ได้ดำเนินการใด ๆ ดังนั้นอย่าเพิ่งไปมองใน แง่ร้ายŽ ! 


    แน่นอนว่าปมประเด็นในข้อกฎหมาย ที่กำลังจะกลายเป็น บ่วงŽ รัดทั้งตัวพิธา และพรรคก้าวไกล นั้นย่อมต้องรอคำวินิจฉัยจากต้นทางคือ กกต. ที่จะมีความเห็นอย่างไร จะชี้ว่ามีมูลหรือไม่ หรือจะตีตกคำร้อง  หรือสุดท้ายแล้วจะไปจบกันที่ศาลรัฐธรรมนูญ ก็ล้วนแล้วแต่เป็น เผือกร้อนŽ ต่อ องค์กรอิสระ  ว่าจะขยับกันต่ออย่างไร แต่สำหรับพรรคก้าวไกลแล้ว นี่คือความหวั่นไหวที่เขย่าขวัญ ในจังหวะที่พวกเขากำลังมุ่งหน้าเข้าทำเนียบรัฐบาล