ความเคลื่อนไหวของพรรคการเมือง ที่ปีกอนุรักษ์นิยม ที่พ่ายแพ้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค.66 มีแต่ความเงียบ ทุกอย่างนิ่งสงบ บรรดาแกนนำพรรค พากันหลบไปรักษา บาดแผล กันถ้วนหน้าตลอดระยะเวลา สองสัปดาห์ที่ผ่านมา ทุกสายตาจึงพากันจับจ้องไปยังที่ พรรคก้าวไกล พรรคอันดับหนึ่ง151 เสียงที่เดินหน้าประสาน กับอีก 7 พรรคการเมือง ดึงเข้าร่วมรัฐบาลเสียงข้าง ประกาศลงนามเอ็มโอยูร่วมกัน  เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา การประชุมครม.ชุดรักษาการที่มี บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไม่คึกคักเหมือนเคย แต่ละนัดมีรัฐมนตรีลาการประชุมไม่ต่ำกว่า 10 ราย
 
 เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย บินไปพักผ่อนกับครอบครัวที่เกาะฮ่องกง พร้อมทั้งส่งรูปผ่านเฟซบุกเป็นระยะๆเพื่อเป็นการปฏิเสธกระแสข่าวลือ ว่าแอบไปตั้งรัฐบาลกับ ทักษิณ ชินวัตร  อดีตนายกฯที่ฮ่องกง 
 ส่วนบิ๊กตู่ เองได้ขยับเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อให้ปลุกขวัญกำลังใจ สมาชิกพรรคเพื่อสยบข่าวลือ เรื่อง ถอดใจ และคิด วางมือ  เพราะอย่าลืมว่าข่าวเช่นนี้ ย่อมทำให้พรรคหวั่นไหว อย่างยิ่ง 

 ขณะที่ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ดูเหมือนว่าจะเผชิญกับ ข่าวลือ ที่หนักหนากว่าใครเพื่อน ทั้งกรณีว่าจะมีการยุบพรรคพลังประชารัฐ แล้วให้ลูกพรรคย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย จนกลายเป็นการบีบให้พล.อ.ประวิตร ต้องออกมาตอบคำถามว่า พูดกันไปเอง วิเคราะห์กันไปเอง ใครพูด ก็ให้ไปถามคนนั้น เพราะตนเองยังไม่ได้คิด 

 อย่างไรก็ดีในความเงียบของปีกอนุรักษ์นิยม นั้นกลับไม่ได้ทำให้ รัฐบาลเสียงข้างมาก โดยเฉพาะพรรคก้าวไกล เองจะอยู่ในภาวะที่มั่นใจได้เต็ม100เปอร์เซนต์ ว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยมนั้น พ่ายแพ้ จนไม่อาจกลับมาต่อกรได้จริงหรือไม่ ยิ่งในภาวะที่พรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย  เปิดศึก  ทั้งโดยเปิดเผยและผ่านโลกโซเชียล จนมีเสียงเรียกร้องจาก กองเชียร์เพื่อไทย ให้พรรคถอนตัวจากรัฐบาล  ยิ่งความหวั่นไหว หวาดระแวงในพรรครัฐบาลเสียงข้างมากมีเท่าใด ยิ่งทำให้ บิ๊กป้อมและอนุทิน ถูกจับตามองมากเท่านั้น !!