ผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ หลังปิดหีบเลือกตั้ง กันไปเรียบร้อยแล้ว ปรากฏออกมา หลังเวลา 17.00 น. ของเย็นวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค.2566 ทำเอาบีบหัวใจ แทบทุกพรรคการเมือง ที่ต้องเฝ้าลุ้นว่า จะได้ส.ส.เขต และปาร์ตี้ลิสต์ เข้าสภาผู้แทนราษฎรสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ได้หรือไม่?
เมื่อการเลือกตั้งครั้งนี้ ในความเป็นจริงแล้ว ทุกขั้วทั้ง ฝ่ายอนุรักษ์นิยม และ เสรีประชาธิปไตย ต่างถือเดิมพันในมือที่สูงไม่แตกต่างกันทั้งสิ้น พรรครวมไทยสร้างชาติ มีภารกิจใหญ่ คือการส่ง บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับเข้าไปนั่งนายกฯรอบที่ 3 นายกฯคนที่ 30 ให้ได้
ขณะที่พรรคเพื่อไทย มีเดิมพันอยู่ที่การเข้าไปนั่งเป็นฝ่ายบริหารที่ทำเนียบรัฐบาล หลังจากที่รอคอยมายาวกว่า 8ปี เพราะหากพรรคเพื่อไทย ยังไม่สามารถพ้นจากสถานะ พรรคฝ่ายค้าน ได้ในคราวนี้ โอกาสที่พรรคจะ อ่อนแรง ล้าจากศึกการเมืองที่ยืดเยื้อ ย่อมจะทำให้พรรคถูกลดทอนกำลังมิหนำซ้ำยังพบว่า ความแรง ของ พรรคก้าวไกล ตลอดการหาเสียง ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ยิ่งตอกย้ำว่า วันนี้พรรคก้าวไกล คือ คู่ต่อสู้ ของพรรค แม้จะยืนอยู่ปีกเดียวกันมา 4 ปี
การเลือกตั้งครั้งนี้ได้ทำให้เห็นชัดเจนว่า ในสมรภูมินี้อุดมการณ์ทางการเมืองได้แบ่ง ให้เกิดการเมืองสองขั้ว ฝั่งหนึ่งประกาศว่าเป็นตัวแทนของ คนรุ่นใหม่ ประกาศ เปลี่ยนแปลงประเทศไทย ซึ่งแน่นอนว่า วันนี้ไม่ใช่ พรรคอันดับหนึ่งอย่างพรรคเพื่อไทยอีกแล้ว
ขณะเดียวกัน ฟากพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติพัฒนา พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติพัฒนากล้า ล้วนแล้วแต่ชูจุดยืน รักษาสถาบัน อย่างชัดเจน จนกลายเป็นการประกาศศึกกับพรรคก้าวไกล ที่ปักหมุดว่าจะแก้ไขมาตรา 112
กระแสความแรงของพรรคก้าวไกล ตลอดฤดูกาลหาเสียง อาจเป็นผลดีต่อการได้คะแนนนิยมสำหรับกลุ่มประชาชนที่เห็นด้วยกับพรรค แต่ในขณะเดียวกัน เมื่อพรรคเลือกเล่นเกมแรง ชูแก้ไข มาตรา 112 ย่อมกลายเป็น เงื่อนตาย ที่ทำให้แต่ละพรรคต้องทบทวนการร่วมงานด้วย แม้แต่พรรคเพื่อไทยเอง ด้วยเหตุนี้ การประกาศชนะเลือกแบบแลนด์สไลด์ ของเพื่อไทย ด้านหนึ่งคือการสะท้อนว่าไม่ต้องการเลือก พรรคก้าวไกล เข้ามาร่วมรัฐบาล
นอกจากนี้ยังต้องไม่ลืมว่า เงื่อนไข ในการจับมือกันตั้งรัฐบาล จากนี้ไปยังต้องประเมินกันต่อด้วยว่า สถานการณ์ความมั่นคงของพรรคใด จะมีน้อยแค่ไหน หลังเลือกตั้ง จะมี ใคร ต้องแพ้ฟาล์ว โดน ยุบพรรค ตามมา ตามที่มีการคาดการณ์ ตั้งข้อสังเกตกันเอาไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่
การเมืองหลังวันเลือกตั้ง จึงเต็มไปด้วยความเข้มข้น ดุเดือด ไม่อาจใช้การคิดคำนวณเพียง ตัวเลขส.ส. เป็นข้อยุติได้เท่านั้น เพราะยังมี ปัจจัยแทรกซ้อน เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
ไม่อย่างนั้น อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะเคยออกปากเตือน เศรษฐา ทวีสิน แคนเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย มาก่อนหน้านี้แล้วเมื่อคราวที่ทั้งคู่เปิดวิวาทะ ว่า หลัง 14 พฤษภา เศรษฐา จะได้เรียนรู้ การเมืองอีกแบบหนึ่ง !!