เหลืออีกเพียง 3 วันจะถึงวันเลือกตั้ง 14 พ.ค.66 นี้ แต่ยังเป็น โอกาส ให้ทุกพรรคการเมืองใช้โอกาสนี้ ดิ้น เฮือกสุดท้าย ปรับเกมสู้กันอุตลุต ! 
 ตัวละครสำคัญอย่าง  ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาเคลื่อนไหว ด้วยการทวิตข้อความถึง 2 ครั้งห่างกันไม่กี่ชั่วโมง ประกาศชัดเจนว่า จะกลับประเทศไทย พร้อมทั้งระบุห้วงเวลาชัดเจนว่า จะกลับบ้านภายในเดือนก.ค.นี้ซึ่งเป็นเดือนเกิดของตัวเอง 

 ทวีตครั้งแรก บอกว่า  ผมขออนุญาตอีกครั้ง ผมตัดสินใจแล้วว่าจะกลับบ้านไปเลี้ยงหลานภายในเดือนกรกฎาคมนี้ก่อนวันเกิดผมครับ ขออนุญาตนะครับ เกือบ 17 ปีแล้วที่ต้องพลัดพรากจากครอบครัว ผมก็แก่แล้วครับ
 และทวีตที่ 2 ย้ำว่า  ว่า  ไม่ต้องกังวลว่าผมจะเป็นภาระพรรคเพื่อไทย ผมจะเข้าสู่กระบวนการกฎหมาย 

 และวันที่ผมกลับยังเป็นช่วงรัฐบาลรักษาการของ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ ทั้งหมดคือการตัดสินใจของผมเองด้วยความรักผูกพันธ์กับครอบครัว แผ่นดินเกิดและเจ้านายของเรา
 เมื่อทักษิณ ขยับ และส่งสัญญาณที่ถูกว่าการประกาศขอกลับบ้านรอบนี้ ยังเปิดหน้า  ขอปรองดอง ที่ชัดเจนมากว่าครั้งไหนๆ เพราะทักษิณ พูดชัดเจนว่า เขาจะกลับไปช่วงที่ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเป็น รัฐบาลรักษาการ และพร้อมที่จะเข้าสู่ กระบวนการยุติธรรม โดยขมวดปมว่า นี่คือการตัดสินใจของเขาเอง ด้วยความรัก ความผูกพัน กับครอบครัวและ แผ่นดินเกิด 

 เมื่อทักษิณ โยนลูกลงมา แรงกดดัน จึงเทไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ และพรรคในปีกพรรคร่วมรัฐบาล เพราะเป็นฝ่ายที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับอดีตนายกฯทักษิณ ยิ่งเมื่อ การเปิดหน้า ประกาศชัดเจนว่าเขาเองพร้อมที่จะเดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของไทย และยังเป็นจังหวะที่พล.อ.ประยุทธ์ รักษาการอยู่ เท่ากับว่า เขาเองไม่ประสงค์ที่จะเป็นปฏิปักษ์กับฝ่ายใด 

 ด้วยเหตุนี้จึงต้องไม่แปลกที่จะพบว่า  พล.อ.ประยุทธ์ ถูกสื่อซักถามด้วยกันหลายคำถาม แต่ประเด็นที่พีคที่สุดคือการที่ถูกถามว่างานนี้มี ดีล หรือไม่ จนบิ๊กตู่ ต้องบอกกับสื่อว่า  เขาส่งมาทางไหน มาทางอากาศหรือ ผมไม่ได้รับคลื่นตรงนี้กลับมา

 ประเด็นที่ว่าด้วยดีลลีบ เคยถูกจับตามาก่อนหน้านี้จะเป็นไปได้หรือไม่ระหว่าง พรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพื่อไทย ที่จะจับมือกันหลังเลือกตั้ง เพื่อตั้งรัฐบาลร่วมกัน จน พรรคก้าวไกล  นำไปใช้ ขยี้แผลกดดันพรรคเพื่อไทย อย่างหนัก เพื่อให้ประกาศจุดยืน 

 แต่เมื่อทักษิณ เลือกวิธี ขอกลับบ้าน และคล้ายกับว่าเขาเองไม่มีเงื่อนไขใดๆ เท่ากับว่าเขาต้องการเปิดเกมปรองดอง ทอดไมตรี กับฝ่ายที่ถูกจัดให้อยู่ในขั้วตรงข้ามชนิดที่เรียกว่า ยากบรรจบ อย่างพรรครวมไทยสร้างชาติ  สถานการณ์เช่นนี้อาจพลิกมากดดัน ฝ่ายพล.อ.ประยุทธ์ จนกว่าจะปิดประตู ไม่รับไมตรีจากทักษิณ !