ท่าทีและสุ้มเสียงจาก "มือกฎหมายรัฐบาล" อย่าง "วิษณุ เครืองาม" รองนายกรัฐมนตรี ที่วิเคราะห์การเมืองในห้วงแห่งการเลือกตั้ง ผ่านสื่อครั้งล่าสุด
แม้รองนายกฯวิษณุ จะพูดอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล แต่ดูเหมือนว่า แรงสะเทือน อาจกระจายเป็นวงกว้าง กระทบไปถึงหลายพรรคการเมืองที่กำลังเดินสายหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย กันถ้วนหน้า !
รองวิษณุ บอกกับสื่อมวลชนว่า เขาอยากเห็น "รัฐบาลเสียงข้างมาก" พร้อมทั้งอธิบายถึงปัญหาหากมีรัฐบาลเสียงข้างน้อยเกิดขึ้นจริงตามที่สื่อซักถามว่าจะต้องเจอกับปัญหาอะไรบ้างว่า โดยมากรัฐบาลเสียงข้างน้อยไม่ควรจะตั้ง แต่ถ้าหนีไม่พ้น จำเป็นต้องตั้ง ก็จะเป็นเสียงข้างน้อยอยู่ไม่กี่วัน ก็จะเป็นเสียงข้างมากเอง มันไม่อยู่เรื่อยไปจนกระทั่งถึงขนาดไปเจอกฎหมายงบประมาณหรอก
"มันไม่เจอเหมือนเมื่อครั้งปี 18 ครั้งรัฐบาล ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ตรงนั้น หวังว่าเมื่อตั้งขึ้นเสร็จแล้วอีกหน่อยก็เป็นแม่เหล็กดึงดูดให้พรรคเล็กตามเข้ามา ซึ่งโดยสูตรการจัดตั้งรัฐบาลมันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ พรรคไหนที่บอกไม่เอา ไม่อยู่ ไม่ร่วม แต่พอทำท่าว่ามีคนอื่นเป็นแกนนำแล้ว มันก็จะดึงเข้าไป การต่อรองจะเกิดขึ้น" (3 พ.ค.2566)
การพูดถึงรัฐบาลเสียงข้างน้อยทั้งที่วันเลือกตั้ง 14 พ.ค.66 ยังมาไม่ถึง เพราะส่วนหนึ่งมีการประเมินว่า พรรคการเมืองในปีกฝ่ายค้านเดิม ทั้ง พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ที่กำลังเป็นพรรคเรทติ้งมาแรง ต่างมีลุ้นว่าจะได้เก้าอี้ส.ส.เข้าสภาฯมากเป็นกอบเป็นกำ
โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยตั้งเป้าเอาไว้ถึง 310 ที่นั่ง ส่วนพรรคก้าวไกล วางเป้าหมายไว้ที่ 160 ที่นั่ง แต่ก็อาจจะติดล็อค ไม่สามารถ "ตั้งรัฐบาล" ได้ เพราะไม่สามารถฝ่าด่าน "250 ส.ว." ตั้ง "นายกฯคนที่ 30" ได้สำเร็จ และหากด่านแรกคือการตั้งนายกฯ ไม่ได้ แล้วการจับขั้วตั้งรัฐบาล ก็จะสะดุดตามมา แม้จะมีรายงานข่าวชี้ว่า เวลานี้มีการเปิดดีล ต่อสาย จับมือเป็น "พันธมิตร" กันเอาไว้ล่วงหน้าแล้วก็ตาม
ขณะที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะที่มีโอกาสเป็นพรรคใหญ่ได้ส.ส.มาเป็นอันดับ 1 แต่ไม่สามารถไปถึงทำเนียบฯได้นั้น จะกลายเป็นการ "เปิดทาง" ให้ พรรคที่ได้ส.ส.น้อยกว่าทั้งพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ มีลุ้นเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แม้จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยหรือไม่
อย่าลืมว่าเกมหลังเลือกตั้ง นั้นยังมีลุ้นอีกหลายช็อต เพราะเมื่อเลือกตั้งจบลงแล้ว วาระต่อไปคือการเลือกประธานสภาฯ แล้วตามมาด้วย การเลือกนายกฯคนที่ 30 ที่จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนทางการเมือง ช็อตสำคัญ !