ขิงยิ่งแก่  ยิ่งเผ็ด ฉันใด ก็ดูจะไม่ต่างไปจากการจับตา จังหวะการก้าวย่าง ของ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ฉันนั้น ! 

 แม้เวลานี้คะแนนนิยมของพรรคพลังประชารัฐ  อาจไม่ได้มาแรงติดโผท็อปทรี จากโพลสำนักต่างๆ ผิดจาก พรรคเพื่อไทย ที่ดูเหมือนว่า กระแส  และความนิยมกำลังไปได้ดี ก็ตาม แต่เรื่องโพลจะชี้วัดพรรคพลังประชารัฐ ออกมาในทิศทางใด ย่อมไม่ใช่ คำตอบ หรือเงื่อนไขในการต่อสู้ทางการเมือง ในสนามเลือกตั้งครั้งนี้เพียงเงื่อนไขเดียว เพราะพรรคพลังประชารัฐ และโดยเฉพาะบิ๊กป้อม เองยังมี กลยุทธ์  ที่จะทยอยปล่อยตามมาเป็นระลอก 
 
อย่างน้อยที่สุด การส่งจดหมายเปิดผนึก ฉบับที่ 9 ของบิ๊กป้อม เมื่อวันที่ 18 เม.ย.66 ที่ผ่านมา ย่อมน่าสนใจว่า จากนี้ไป ผลลัพธ์ และ ผลกระทบ จะไปตกกับใคร กับพรรคการเมืองใด มากที่สุด ! 


 ถ้อยความในจดหมายฉบับล่าสุด ไม่มีอะไรมากไปกว่าการตอกย้ำว่าวันนี้พรรคพลังประชารัฐ ยังเปิดรับ ทุกพรรค เป็นมิตรกับทุกฝ่าย ไม่ตัดรอน หรือปิดประตูใส่พรรคใดพรรคหนึ่ง


 และเหนืออื่นใด พรรคที่กำลังได้รับผลกระทบมากกว่าใคร ย่อมหนีไม่พ้น พรรคเพื่อไทย เพราะเมื่อก่อนหน้านี้ อย่าลืมว่า พรรคเพื่อไทย เพิ่งส่งแม่ทัพออกมาประกาศจุดยืนว่าจะไม่จับมือกับพรรคพลังประชารัฐหรือพรรคใดก็ตามที่จับมือกับฝ่ายที่ทำรัฐประหาร 

 หลังจากที่ ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค ออกมาประกาศว่า พรรคพลังประชารัฐ จะไม่ตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล แต่ต่อมา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และ สันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำใกล้ชิดพล.อ.ประวิตร ออกมาหักล้างด้วยการระบุว่า เรื่องนี้ไม่ใช่มติของพรรคแต่อย่างใด 

 หมายความว่า โอกาสที่พรรคพลังประชารัฐ จะจับมือกับพรรคเพื่อไทย ใช่ว่าจะถูกตีตกหรือ ปิดตาย !
 
ดังนั้น เมื่อบิ๊กป้อม ออกจดหมายฉบับที่ 9 ออกมาเช่นนี้ จึงยิ่งเป็นเรื่อง ไว้ไมตรี และทำให้พรรคเพื่อไทยถูกตั้งคำถามาระลอกใหม่ ว่า ดีลลับ ยังมีอยู่จริงหรือไม่ และหากคำถามนี้ยังวนเวียนพัวพันกับพรรคเพื่อไทย จะยิ่งเป็นการ ตัดคะแนน ทำให้สถานการณ์ของพรรคเพื่อไทย ที่มุ่งหน้าไปถึงแลนด์สไลด์ ยากเย็นเต็มที !