สยามรัฐ ยึดมั่นอุดมการณ์ปกป้องเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสน์กษัตริย์ ยืนหยัดรับใช้สังคมด้วยจิตสำนึกแห่งความรับผิดชอบ …*…

ท่ามกลางบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งที่เต็มไปด้วยความเข้มข้น หลายพรรคยังคงสาดนโยบายมหาประชานิยมออกมาเกทับบลัฟแหลก แย่งชิงซื้อใจประชาชน จนมีการออกมาตั้งข้อสังเกตว่านี่ใช่เป็นเพียงการขายฝันหรือไม่ หรือหากมีการนำนโยบายเหล่านั้นมาปฏิบัติจริงในรัฐบาลหน้า อะไรจะเกิดขึ้น ประเทศไทยต้องสุ่มเสี่ยงกับการเดินซ้ำรอยเวเนซุเอลา หรือศรีลังกา ที่ต้องเผชิญปัญหามากมาย แทบต้องล่มสลาย เพราะพิษนโยบายประชานิยมประเภท “ยาพิษเคลือบน้ำตาล”หรือไม่ …*…

 แม้ปัจจุบัน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองกำหนดในมาตรา 57 ให้พรรคการเมืองที่ประกาศโฆษณานโยบายที่ต้องใช้เงิน จะต้องนำเสนอข้อมูล 3 รายการคือ วงเงินที่ต้องใช้และที่มาของวงเงิน ความคุ้มค่าและประโยชน์ในการดำเนินนโยบาย และผลกระทบและความเสี่ยงในการดำเนินนโยบาย ทว่า มีมุมมองจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)ว่า  กฎหมายนี้กำหนดบทลงโทษไว้เบามาก โดยในกรณีที่พรรคการเมืองไม่จัดทำข้อมูลดังกล่าว กกต. มีเพียงอำนาจสั่งให้จัดทำให้ถูกต้องเท่านั้น และหากพรรคการเมืองยังฝ่าฝืนก็จะเสียค่าปรับไม่เกิน 5 แสนบาท และอีก 1 หมื่นบาทต่อวันจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง  นอกจากนี้ ยังไม่เคยปรากฏว่า กกต. ได้เคยจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบและความเสี่ยงในการดำเนินนโยบายของพรรคการเมืองเปิดเผยต่อสาธารณะแต่อย่างใด จนทำให้เกิดคำถามต่อขีดความสามารถของ กกต. ในการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว …*…

พร้อมกันนี้ทีมวิจัยของทีดีอาร์ไอยังมีข้อห่วงใยหลายประการต่อนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ ที่ถึงจะมีจุดประสงค์ดี มุ่งแก้ไขความเดือดร้อน และปัญหาของประชาชนกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางก็ตาม แต่ก็ยังมีหลายนโยบายที่น่าจะสร้างปัญหาให้แก่ประเทศในระยะยาว ด้วยเหตุผลหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างภาระทางการคลังจากการใช้งบประมาณมากเกินตัว หรือมีแนวโน้มว่าจะใช้เงินนอกงบประมาณผ่านรัฐวิสาหกิจต่างๆ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ทำให้การใช้เงินดังกล่าวไม่ผ่านกระบวนการงบประมาณและทำให้รัฐสภาในฐานะผู้แทนของประชาชนไม่สามารถตรวจสอบได้ …*…  

“มีอย่างน้อย 2 พรรคการเมืองที่น่าจะต้องใช้เงินงบประมาณเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอีกกว่า 2 ล้านล้านบาทต่อปี เพื่อดำเนินนโยบายที่ประกาศไว้ และหากรวมต้นทุนด้านการคลังของนโยบายของอีก 9 พรรคการเมือง โดยไม่นับนโยบายที่ซ้ำกัน ก็จะต้องใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นทั้งหมด 3.14 ล้านล้านบาทต่อปี  หรือเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากงบประมาณรายจ่ายสำหรับปี 2566” ทีมวิจัยทีดีอาร์ไอระบุ...*...

และทีดีอาร์ไอยังได้ตั้งข้อสังเกตชวนให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งได้คิดต่ออีกว่า พรรคการเมืองส่วนใหญ่ที่ประกาศนโยบายต่างๆ ออกมายังไม่ได้อธิบายว่าจะหางบประมาณมาจากแหล่งใด เช่น จะมีการเก็บภาษีใดเพิ่มขึ้นหรือจะตัดลดงบประมาณที่มีอยู่ในปัจจุบันในด้านใดลง หรือ กล่าวอีกนัยหนึ่ง พรรคการเมืองต่างๆ ได้ประกาศนโยบายเพื่อหาเสียงกับประชาชนโดยเสนอให้สวัสดิการและความช่วยเหลือต่างๆ เสมือนนโยบายดังกล่าวไม่มีต้นทุนทางการคลังใดๆ เลย อีกทั้งนโยบายจำนวนมากที่ประกาศออกมาส่วนใหญ่เน้นแก้ไขปัญหาหรือตอบสนองความต้องการเฉพาะหน้าของประชาชน  และอาจไม่สามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้จริง เนื่องจากจะต้องแก้ไขกฎหมายต่างๆ ที่มีอยู่จำนวนมาก โดยยังไม่ปรากฏว่าพรรคการเมืองที่เสนอนโยบายดังกล่าวได้ศึกษาอย่างเป็นระบบถึงแนวทางในการแก้ไขกฎหมายต่างๆ ตลอดจนต้นทุนและประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นเลย …*…

และ “เจ้าพระยา” ขอสรุปสุดท้ายด้วยคำเตือนจากทีดีอาร์ไอ ที่ว่า หากพรรคการเมืองยังแข่งขันกันหาเสียงเพื่อหวังเอาชนะกันเช่นนี้ ก็จะทำให้เกิดสภาพ “ปัญหากลืนไม่เข้าคายไม่ออก”  คือ หากรัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้ง ที่น่าจะเป็นรัฐบาลผสม นำเอานโยบายของพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลมาประกาศเป็นนโยบายของรัฐบาลเพื่อปฏิบัติแล้ว ประเทศไทยก็น่าจะประสบปัญหาทางการคลังอย่างมากจนอาจเกิดวิกฤติ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในช่วงต้นรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ หรือหลายประเทศทั่วโลกโดยเฉพาะประเทศในลาตินอเมริกา เนื่องจากจะเพิ่มหนี้สาธารณะของไทยที่อยู่ในระดับร้อยละ 61 ของ GDP ในปัจจุบันให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือแม้จะไม่เกิดวิกฤติทางการคลัง ก็อาจทำให้เกิดปัญหาความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทย ดังที่หน่วยงานจัดอันดับเครดิต (credit rating agency) ต่างๆ เริ่มแสดงความวิตกกังวลกัน และอาจก่อให้เกิดปัญหาที่มีความอ่อนไหวตามมา ดังตัวอย่างของอังกฤษ ซึ่งประสบปัญหาความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงเมื่อปีที่แล้วจนนายกรัฐมนตรีต้องลาออก หลังตลาดการเงินเห็นว่ารัฐบาลดำเนินนโยบายการคลังอย่างไม่รับผิดชอบ ...*...

 ข่าวสังคมทั่วไป ประจำวันพฤหัสบดีที่ 30 มี.ค. เวลา  09.00 น. นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมการแพทย์ เป็นประธานเปิดการประชุมโครงการพัฒนาศักยภาพแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ในการดูแลรักษาวัณโรค ประจำปีงบประมาณ 2566 จัดโดย สถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ ที่ห้องจูปิเตอร์ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น

แสดงความยินดี...กตพล คงอุดม กรรมการผู้จัดการ สยามรัฐ ร่วมแสดงความยินดีกับ ฉัตรชัย ศิริไล ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สำนักงานใหญ่ เมื่อวันก่อน

ประชุมวิชาการนมแม่...อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี/รมว.สาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการนมแม่แห่งชาติครั้งที่ 8 จัดโดย มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย โดยมี นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา พญ.ศิริพร กัญชนะ พญ.สมสิริ สกลสัตยาทร ร่วมประชุม และ ดร.อัศวิน อิงคะกุล ประธาน มิราเคิล กรุ๊ป อนัคพล อิงคะกุล ให้การต้อนรับ ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น

ขอบคุณ...เตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นประธานเปิดงานวันศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย ประจำปี 2566 พร้อมมอบโล่ขอบคุณแก่ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ ทรู คอร์ปอเรชั่น โดย นเรศ สวัสดิกุลวัฒน์ ผู้ช่วย ผอ.ฝ่ายสื่อสารการตลาด ทรู คอร์ปอเรชั่น ในฐานะองค์กรที่สนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมรณรงค์การบริจาคอวัยวะผ่านโครงการ “ Let Them See Love” ต่อเนื่องเป็นปีที่16 ที่อาคารแพทยพัฒน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย

ยกระดับ...ดร.ภญ.อโนมา เจริญทรัพย์ รศ.ดร.ภก.สุพัฒน์ จิรานุสรณ์กุล ภก.พลแก้ว วัชระชัยสุรพล ภก.กรกฎ ทิพย์รัตน์ และ ภก.ณัฏฐวัฒน์ จินดามณีศิริกุล ร่วมการประชุมวิชาการ การศึกษาต่อเนื่องทางเภสัชศาสตร์สำหรับเภสัชกร”  จัดโดย สถาบันแบลคมอร์ส ร่วมกับ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  และ ชมรมเภสัชกรเชียงใหม่ และเครือข่าย 5 สถาบัน ที่โรงแรมดวงตะวัน จ.เชียงใหม่

จัดแคมเปญ...ภญ.กิตติวรรณ รัตนจันทร์ ผู้บริหารสูงสุด เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย และ กฤษดา มงคลธารณ์ ผอ.ฝ่ายการตลาด เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย จัดแคมเปญ "Destiny Love by โบเยอรมัน X แม่สื่อแม่ชัก ซัพพอร์ตความมั่น สร้างพรหมลิขิตด้วยตัวคุณเอง" โดยมี สุทธิดา โตสุวรรณ ศิริขวัญ ชินโชติ และ พญ.อรุณี ทองอัครนิโรจน์ ร่วมงาน ที่ชั้น LG ลานกิจกรรม หน้าอีฟแอนด์บอย ดิ อันเดอร์กราวน์ สาขาสยาม สแควร์วัน

ระดับโลก...หิรัญ ตันมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อีฟแอนด์บอย จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลก “มาร์ค ต้วน” ในแคมเปญ “EVEANDBOY SHINING THE UNIVERSE” ตอกย้ำบิวตี้สโตร์อันดับ 1 ของไทย โดยมี ยุวเรต ศรุตานนท์  สุธาวัลย์ ตราชู  ปริญญา วะนะศุข จิรพร บูรณพงศ์  นรีรัตน์ เตลาน และ อ้อยใจ วงศ์ลีลากรณ์ ร่วมงาน ที่โรงภาพยนตร์สกรีนเอ็กซ์ เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ สยามพารากอน เมื่อวันก่อน

เบิร์ธเดย์...นวรัตน์  กิติยากร ณ อยุธยา เป็นเจ้าภาพเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดให้ เบญจวรรณ ประสุตานนท์  อดีตแอร์โฮสเตสการบินไทย และอดีตนางเอกภาพยนตร์ เรื่องเมืองในหมอก โดยมี ดร.จุไรรัตน์ วรรณยิ่ง  และ อมรา ฐานะจาโร ร่วมยินดี ที่ร้านอาหารครัวสารสจัด  วิภาวดี 44  เมื่อวันก่อน         

เปิดตัวรถใหม่...ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการ และ ดร.อารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร ไทยฮอนด้า ร่วมเปิดตัวรถจักรยานยนต์ฮอนด้าใหม่ 4 รุ่น คอนเซปต์ “นำหน้า…อย่างจ่าฝูง” โดดเด่นด้วยดีไซน์ใหม่รอบคัน  ในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44  ที่บูธ M4 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพคเมืองทองธานี

เซ็นสัญญา...อังกูร พลพิพัฒนพงศ์ กรรมการผู้จัดการ เชียงใหม่โฟรเซ่นฟูดส์ จัดงานเซ็นสัญญา เปิดตัวพรีเซนเตอร์ 2 พี่น้อง เซย่า-ณิชฎา และ มิย่า-พิชชา ทองเจือ พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์แบรนด์ข้าวโพดอบกรอบ "คอร์นนิสต้า" ออกสู่ตลาดเป็นครั้งแรก ที่สำนักงานใหญ่ เชียงใหม่โฟรเซ่นฟูดส์ ถนนสุรวงศ์