21 มี.ค. 66 วันนี้ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะมีอายุครบ 69 ปี แต่ปีนี้น่าจะเป็นที่ปีที่มีความพิเศษ แตกต่างออกไปจากทุกปี เมื่อปีนี้คือช่วงจังหวะของการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ที่เกี่ยวพันกับพล.อ.ประยุทธ์ เป็นสำคัญ 

 ด้วยปีนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เปลี่ยนสถานะไปสู่ นักการเมือง  อย่างเต็มตัว  เลือกเดินเส้นทางที่แยกออกไปจาก พี่ใหญ่ คือ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ  และเหนืออื่นใดวันเกิดปีที่ 69 ของพล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในช่วงรอยต่อทางการเมือง ในห้วงของการยุบสภาฯ จากรัฐบาลปกติ ไปสู่รัฐบาลรักษาการต้องปฏิบัติตัวตามกรอบกฎหมายรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 168 เพื่อดูว่าอะไรทำได้ และอะไรทำไม่ได้ 
 โดยเฉพาะต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดความสุ่มเสี่ยง ในห้วงของการหาเสียงเลือกตั้ง เพราะไม่เช่นนั้นมีโอกาสที่จะถูกร้อง จนต้องพับกระดานกันก่อนได้ลงสนามเลือกตั้ง ที่ถูกคาดการณ์ว่าจะมีขึ้นในราววันที่ 14 พ.ค.66

 เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์สื่อ ในเรื่องการยุบสภาฯ ว่าให้ราชกิจจานุเบกษา ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ  และอยากฝากให้รัฐบาลรักษาการที่จะยังอยู่ทำหน้าที่ต่อไปจากนี้ดำเนินงานให้ดีที่สุด  รวมถึงขอให้กำลังใจ รัฐบาลหน้า ที่จะเข้ามารับช่วงต่อ โดยขอให้ทำตามกรอบที่รัฐบาลชุดนี้ได้วางเอาไว้ เนื่องจากทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมและประเทศชาติ 
 ส่วนของขวัญที่อยากได้เนื่องจากวันเกิดปีนี้ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าอยากเห็นประเทศชาติ สงบสุข ไม่แตกแยก เป็นของขวัญให้กับคนไทย 
 
แต่ประเด็นที่สื่อถาม กลับยังไม่มีคำตอบจากพล.อ.ประยุทธ์ นั่นคือการตัดสินใจว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้ง แบบส.ส.บัญชีรายชื่อ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือไม่ เพราะบิ๊กตู่ ทิ้งท้ายเอาไว้สั้นๆว่า  ผมไม่ตอบ  


 อย่างไรก็ตาม การต่อสู้ทางการเมือง จากทุกพรรคและทุกขั้ว จะเปิดฉากด้วยความเข้มข้นมากขึ้น เมื่อการยุบสภาฯ เกิดขึ้น  รวมถึงโอกาสที่ ต่างฝ่ายต่างจะไม่มีการ ไว้ไมตรี  เปิดหน้าฟาดฟันกันอย่างดุเดือด 


 โดยอาจรวมถึง  พรรคร่วมรัฐบาล ที่ ฝ่ายค้าน หวั่นไหว ว่าจะพากัน จับมือ กันตั้งรัฐบาลรอบหน้า เพราะจะหมายความว่า พรรคฝ่ายค้าน ทั้ง พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล และพรรคเสรีรวมไทย จะถูกปิดประตู แทรกเข้ามาร่วมรัฐบาล  โดยเฉพาะในจังหวะนี้ที่ พรรคเพื่อไทย เปิดหน้า ประกาศแลนด์สไลด์ 310 เสียงไม่เหลือที่นั่งส.ส.เอาไว้ให้ พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกัน