ชัยวัฒน์ สุรวิชัย ยามทรงอยู่ เป็นที่ประทับตราตรึงจิต ยากจาก ได้นำเกียรติคุณยิ่งใหญ่แห่งความภาคภูมิใจมาสู่คนไทย 14 ตุลา 2559 พสกนิกรปวงชนชาวไทยหลักล้านคนร้อยดวงใจหลั่งไหลล้นทะลักออกรอบๆสองข้างเส้นทาง เพื่อแสดงความจงรักภักดีร่วมส่งเสด็จฯสู่สวรรคาลัย ในพิธีเคลื่อนพระบรมศพของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ในช่วงเวลาประมาณ 16.35 น. จากโรงพยาบาลศิริราช ไปยังพระบรมมหาราชวัง พสกนิกรหลั่งน้ำตา สมเด็จพระราชินีเสด็จร่วมขบวนอัญเชิญพระศพ พร้อมโบกพระหัตถ์แย้มพระสรวล ยังความปลาบปลื้มใจให้แก่เหล่าพสกนิกรที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จ ที่พร้อมใจกันเปล่งเสียงทรงพระเจริญ ดังกึกก้องไปทั่ว บางคนถึงกับร่ำไห้ด้วยความตื้นตันใจ คนไทยเรือนล้าน ร่วมตระโกนและโพสต์ถวายอาลัย "ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป" : อาลัยพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศจาก ไทยทั่วโลก ที่ได้แสดงออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน นานาอารยะประเทศสะดุดดีในหลวงของปวงชนชาวไทย 1. โลกสูญเสีย ผู้นำที่ใกล้ชิดประชาชน ได้นำความรุ่งเรืองสู่ประเทศไทยตลอด 70 ปี : ผู้นำอินโดนีเซีย 2. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9 ไม่เพียงเป็นกษัตริย์ที่ครองราชยาวนานที่สุดในโลก แต่ยังเป็นผู้นำทางประเทศไทยไปสู่ประเทศที่มีความก้าวหน้าที่สุดประเทศหนึ่งในเอเชีย : ผู้นำฟิลิปปินส์ 3. สำหรับในรัสเซีย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9 จะเป็นที่จดจำในฐานะผู้ส่งเสริมการพัฒนา มิตรภาพความสัมพันธ์ระหว่างไทยและรัสเซีย : ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน 4. ยูเอ็นจีเอ ยืนสงบนิ่งไว้อาลัยถวายในหลวงรัชกาลที่9.... 5. จีนแถลงแสดงความเสียใจในหลวงรัชกาลที่9สวรรคต.... 6. 'โอบามา' สดุดีในหลวง 'กษัตริย์ผู้ไม่เคยเหน็ดเหนื่อย' 7. "ราชวงศ์ของเรามีความทรงจำที่อบอุ่นอย่างมากในการพบกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9" สมเด็จพระราชาธิบดีวิลเลิม-อเล็กซานเดอร์ แห่งเนเธอร์แลนด์ ในหลวงทรงเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นหนึ่งเดียวของปวงชนชาวไทย 8. สรรเสริญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9 ถึงความตระหนักถึงความยุติธรรมอย่างลึกซึ้ง ความห่วงใยในการพัฒนาประเทศให้ทันสมัยและยั่งยืน ซึ่งทำให้ทรงเป็นที่รักของประชาชนชาวไทย และประชาคมโลกต่างให้ความเคารพ : ประธานาธิบดี ฟรองซัวร์ ออลลองด์ ของฝรั่งเศสครั้งหนึ่งในชีวิต ...เมื่อ"สามัญชน"ได้เข้าเฝ้าฯ"ในหลวง" ในฐานะประชาชนชาวไทย การได้เข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นับเป็นความฝันอันสูงสุดของชีวิต.... 1. 2501 ครูแล สังข์สุข ดำรงตำแหน่งครูโรงเรียนเทศบาลบ้านเขาเต่า หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ วันหนึ่งทรงเสด็จมาเยี่ยมถึงบ้าน "ตอนนั้นประมาณ 4-5 โมงเย็น ราชองครักษ์มาบอกว่าในหลวงจะทรงเสด็จมาเยี่ยมบ้าน เราได้แต่ยืนงง ทำอะไรไม่ถูก ตอนนั้นมีทหารมาล้อมบ้านเต็มไปหมด พอพระองค์มาถึงก็รับสั่งว่า 'ขอเยี่ยมชมบ้านหน่อยได้ไหม ฉันพาประธานสภากาชาดแห่งโลกมาด้วย'บ้านผมเป็นเพียงบ้านไม้เก่าๆธรรมดาๆ แต่ในหลวงท่านทรงไม่ถือพระองค์ ทั้งยังไถ่ถามความเป็นไปภายในบ้านหลังนี้อย่างเป็นกันเอง .... ครูแล เผยว่า “ พระองค์ท่านทรงเอาพระราชหฤทัยใส่ต่อประชาชนของท่านเหมือนพ่อดูแลลูก” 2.สีเทา-จรัล เพ็ชรเจริญ ดาวตลกอาวุโส เล่าถึงความทรงจำที่ได้ถวายงานแก่ในหลวงอย่างใกล้ชิด ทรงรับสั่งให้เข้าไปพากย์หนังให้พระองค์ท่านทอดพระเนตรในวัง นั่งพากย์ห่างจากพระองค์ท่านไม่กี่เมตร รับสั่งกับผมว่า 'เธอพากย์ในโรงยังไงก็พากย์แบบนั้นให้เราฟังเลยนะ'คราวนี้ล่ะหายเกร็งเลย ใส่ภาษาชาวบ้านอย่างเต็มที่ .... หนังที่ฉายคือ แม่นาคพระโขนง เวอร์ชั่นสุรสิทธิ์ สัตยวงศ์และปรียา รุ่งเรือง "ปีพ.ศ.2539 ผมป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองแตก นอนโรงพยาบาลอยู่ 17 วัน ในใจคิดว่าท่าจะสิ้นชื่อก็คราวนี้ จู่ๆสำนักพระราชวังแจ้งมาว่า ในหลวงท่านทรงพระราชทานดอกไม้มาให้ พอรับแจกันเท่านั้นแหละ น้ำตาไหลเลย ตื่นตันใจ....... จากที่คิดว่าไม่รอดบอกตัวเองไว้เลยว่า เรารอดแน่ เราไม่เป็นอะไรแน่ เหมือนพระองค์ทรงชุบชีวิตเราขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ให้เรามีความหวังและกำลังใจให้อยู่บนโลกนี้ต่อไป" 3.ว่าที่ร.ต.ดิลก ศิริวัลลภ"ความประทับใจของล่ามเชิ้อสาน มลายู ส่วนพระองค์เขาบอกว่าแม้ในหลวงจะทรงมีพระราชภารกิจหนักหนาแค่ไหน ก็ยังทรงเปี่ยมด้วยพระราชอารมณ์ขัน “วันไหนพระองค์ท่านทรงงานหนัก ท่านจะตรัสเป็นภาษามลายูว่า วันนี้ ซาเก๊ะกาปาลอจริงๆ แล้วทรงชี้ไปที่พระเศียร หรือบางทีก็ตรัสว่า ปือนิงกาปาลอ แล้วก็ลูบพระนาภี สองคำนี้แปลว่าปวดหัว ปวดท้อง อุปกรณ์การปฏิบัติพระราชกรณียกิจส่วนพระองค์ของในหลวงที่เห็นเป็นประจำคือ ดินสอ กล้องถ่ายรูป วิทยุสื่อสาร สมุดจด แผนที่ เท่านี้ก็ออกทรงงานได้แล้ว "เดิมทีเมื่อครั้งพระองค์เสด็จมาใหม่ๆ พวกชาวบ้านจะเรียกว่า รายอซีแย หมายถึง พระเจ้าแผ่นดินสยาม ซึ่งคล้ายๆกับชาวต่างประเทศที่ดูห่างเหิน แต่กาลเวลาผ่านมากว่า 60 ปี พระองค์ท่านได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ทรงเป็นพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของคนไทยทั้งปวง:ภายหลังชาวไทยมุสลิมเรียกในหลวงว่า รายอกีตอ เรียกสมเด็จพระราชินีว่า ประไหมสุหรีกีตอ ซึ่งแปลว่า ในหลวงของเรา และพระราชินีของเรา การที่พวกเขาเรียกเช่นนี้ย่อมหมายถึงความไว้วางใจ เคารพรัก ศรัทธา และจงรักภักดี สิ่งเหล่านี้ซื้อไม่ได้ด้วยเงินตรา และสร้างขึ้นมาไม่ได้ด้วยวัตถุ จวบจนถึงวันนี้ไม่ว่าไทยพุทธ ไทยมุสลิมจะมีคำกล่าวถึงในหลวงเหมือนกันโดยไม่แบ่งแยกว่า "กีตอกาเซะ รายอกีตอ .... ในหลวงของเรา เรารักในหลวงของเรา"ในหลวง กับ คอมมิวนิสต์ นักข่าวฝรั่งทูลถามต่อว่า "สร้างเขื่อนแล้ว ท่านคิดว่าท่านจะชนะในการต่อสู้ใช่ไหม?" พระองค์ทรงมีรับสั่งถามกลับว่า "ชนะใคร? ต่อสู้กับใคร?" นักข่าวฝรั่งทูลตอบว่า "ก็พวกที่กระด้างกระเดื่องและฝักใฝ่ลัทธิคอมมิวนิสต์น่ะ" ในหลวงทรงตอบนักข่าวฝรั่งด้วยพระปรีชาสูงส่งและด้วยพระเมตตาที่ทรงมีต่อผสกนิกรทุกหมู่เหล่าและด้วยความมั่นในพระราชหฤทัยว่า เราชนะความอดอยากหิวโหยน่ะสิ เราไม่ได้ต่อสู้กับประชาชน เราต่อสู้กับความอดอยากหิวโหยของประชาชน เราปรารถนาให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น ถ้าประชาชนเหล่านี้มีชีวิตที่ดีขึ้น พวกประชาชนอีกฝ่ายที่ท่านเรียกว่า 'พวกที่กระด้างกระเดื่อง พวกคอมมิวนิสต์' ก็จะมีชีวิตที่ดีขึ้นด้วยเช่นกัน ทุกๆคนไม่ว่าฝ่ายใดต่างก็จะมีความสุขทั้งหมด".... ทำไมประเทศไทยถึงต้องมีกษัตริย์ ? ในหลวงตอบคำถาม BBC ว่า : การมีกษัตริย์นั้นเป็นประโยชน์ และเมื่อนักข่าวถามต่อไปถึงนิยามกษัตริย์ พระองค์รู้เพียงอย่างเดียวว่าพระองค์ทำสิ่งที่มีประโยชน์ต่อประชาชนก็เท่านั้น และนั่นคือเป้าหมายสูงสุด ทั้งหมดนี้ น่าจะสรุปได้ ถึงรูปธรรม แห่งพระปฐมบรมราชโองการ “ เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขของมหาชนชาวสยาม “ ที่ทำให้เราคนไทยที่ได้รับรู้และเข้าใจอย่างถ่องแท้ จะมีหลักอุดมคติของตนเองว่า “ เราจะเดินไปบนเส้นทางครรลองแห่งธรรม คิดดีทำดีเพื่อตนเอง ผู้อื่น ด้วยความรู้ สติปัญญา ความจริง”