การไม่มีคำตอบ แท้จริงแล้ว อาจเป็น คำตอบ อยู่แล้ว โดยไม่ต้องบอกกล่าว ! แม้จะยังไม่มีคำตอบจาก สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กับ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตหสากรรม 2 แกนนำพรรคพลังประชารัฐว่าเขาจะอยู่กับ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ต่อไป หรือจะย้ายเข้าพรรคเพื่อไทย ตามที่มีข่าวลือมาก่อนหน้านี้ก็ตาม 


 แต่ดูเหมือนว่า  เมื่อสมาชิกคนสำคัญในกลุ่มอย่าง สรวุฒิ เนื่องจำนง  ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ ออกมาเปิดเผยแล้วว่า จะลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ แล้วเตรียมไปเปิดตัวที่พรรคเพื่อไทย  พร้อมกันนี้มีรายงานว่า ทั้งสุริยะและสมศักดิ์ จะตามไป ในเร็ววัน 


 ก็น่าที่จะชัดเจนในตัวของมันเองแล้วว่า กลุ่มสามมิตรที่วันนี้เหลือเพียง สองมิตร เลือกเส้นทางใหม่ ทางการเมืองแล้วว่า พวกเขาจะไปอยู่ที่พรรคเพื่อไทย และหากนำจิกซอร์ เหตุการณ์ที่สมศักดิ์ เพิ่งไปราชการที่จ.กำแพงเพชรเมื่อวันที่ 13 มี.ค.66 ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีว่าที่ผู้สมัคร ทั้ง 4 เขต ในจ.กำแพงเพชร ของพรรคเพื่อไทยมาให้การต้อนรับ ยิ่งเป็น คำตอบ โดยที่ทั้งสมศักดิ์ ไม่ต้องตอบแล้วด้วยซ้ำ !
 เพราะไม่เช่นนั้น คงไม่มีเสียงดังอื้ออึงจากคนในพรรคพลังประชารัฐ เรียกร้องให้สมศักดิ์ ประกาศจุดยืนว่าจะไปทางไหน และ หากจะไปก็ไป ! 
 การตัดสินใจของสมศักดิ์ที่จะไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งรอบหน้า ด้านหนึ่งคือการเลือกเพื่อความมั่นคงในตำแหน่ง ผู้เล่น โดยมี มิตรเก่า อย่าง เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ภาคเหนือ และในฐานะ น้องสาวทักษิณ ให้การต้อนรับ 


 เมื่อเปรียบเทียบการอยู่ที่พรรคพลังประชารัฐต่อไป ก็ต้องรบรากับ กลุ่มก๊วน ข้างกาย พล.อ.ประวิตร และโอกาสที่สมศักดิ์ -สุริยะ จะได้ลงส.ส.บัญชีรายชื่อ อันดันต้นๆ เพื่อการันตีว่าจะได้กลับเข้าสภาฯ ก็ดูรืบหรี่เต็มที


 ขณะเดียวกันการเลือกไปที่พรรครวมไทยสร้างชาติ กับ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ว่าที่แคนดิเดตนายกฯของพรรค เพราะสมศักดิ์ อาจเป็นเหมือน ปลาคนละน้ำกับกลุ่มการเมืองในพรรครวมไทยสร้างชาติ  


 การตัดสินใจของสมศักดิ์ ครั้งนี้จึงมีทั้งบวกและลบ มีทั้งโอกาสและความสุ่มเสี่ยง ในคราวเดียวกัน !เพราะนาทีนี้แม้แต่คนในพรรคเพื่อไทย ยังไม่มีใครกล้าการันตีได้ว่า จะชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ ด้วย 310 เสียง จะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ พรรคเพื่อไทย จะได้เป็นพรรคแกนนำตั้งรัฐบาล หรือไม่ ?