เขย่าโซ่ปรองดอง ! 

ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ร่วมเวทีปราศรัย กับ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 4 มี.ค.66 ที่ผ่านมา โดยเลือกเปิดเวทีที่ วัดสมศรี ต.พังทุย อ.น้ำพอง ช่วยลูกพรรค คือ ชัชวาล อภิรักษ์มั่นคง  ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 3 พรรคก้าวไกล หาเสียง 
 
บรรยากาศการปราศรัย  ที่พรรคก้าวไกลเมื่อภายหลัง ปิยบุตร กับ พิธา เคลียร์ใจ กันได้เรียบร้อยแล้วจึงเต็มไปด้วยความฮึกเหิม ยิ่งเมื่อย้อนกลับไปดู สถิติคะแนนของชัชวาล ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ต้องถือว่า น่าสนใจทีเดียว เพราะกวาดมาได้ 3หมื่นคะแนน แพ้ แพ้ที่ 1 ไปเพียง 3 พันคะแนน หมายความว่า เที่ยวนี้มีลุ้น ! 
 
แต่ประเด็นที่ปิยบุตร ยกขึ้นมาปราศรัยถือว่าไม่อาจมองข้ามเช่นกัน เพราะปิยบุตร พุ่งเป้าไปที่ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะแคนดิเดตนายกฯของพรรครวมไทยสร้างชาติ และ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่า 2ลุง แค่แยกกันเดิน  
 
 วันนี้ลุงสองคนแยกกันเดิน ทำเป็นแนบเนียน แต่เรารู้ทันว่า สุดท้ายจะมารวมกัน ดังนั้นขอให้เลือกพรรคก้าวไกล เพื่อเข้าไปหยุด 3 ป. 
 
แน่นอนว่าการพุ่งเป้าไปที่ 2 ลุง ในมุมของปิยบุตรย่อมมีนัยยะและความจำเป็นที่พรรคก้าวไกล ต้องเร่งส่งสัญญาณ ให้ชัดเจน ในท่ามกลาง ที่ พรรคเพื่อไทย เอง แม้จะเป็นพรรคฝ่ายค้านมาด้วยกันตลอด4ปี กลับมีกรแสข่าวเรื่องของการ เปิดดีล จับมือกับพรรคพลังประชารัฐเพื่อตั้งรัฐบาล หากพรรคเพื่อไทย เอาชนะเลือกตั้งแลนด์สไลด์ไม่ได้ตามเป้า 

 นอกจากนี้ยังต้องไม่ลืมว่า ทุกความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประวิตร ที่ประกาศจุดยืน พรรคพลังประชารัฐ ชูก้าวข้ามความขัดแย้ง ปรองดองกับทุกฝ่าย จนทำให้พล.อ.ประวิตร ถูกมองว่า เขาเองพร้อมที่จะเป็น คนกลาง ประสานได้กับทุกฝ่าย เพื่อตั้งรัฐบาลร่วมกัน ซึ่งเมื่อพล.อ.ประวิตร เดินเกมการเมืองในแนวนี้ย่อมไม่เป็น ผลดี ต่อพรรคการเมืองใดก็ตามที่ เลือกข้าง อย่างชัดเจน โดยเฉพาะ พรรคก้าวไกลเอง จนอาจกลายเป็น แรงกดดัน ทำให้ พรรคก้าวไกล อยู่ในสภาพที่เรียกว่า ตกขบวน 
 
ขณะเดียวกัน พรรคก้าวไกล ก็ไม่อาจประกาศตัว ร่วมขบวน กับ 2ป. ได้เพราะจะเป็นการทำลายฐานการเมืองของตัวเองทันที 
 
ดังนั้นทางเลือก ทางออกของพรรคก้าวไกล คือการไม่เล่นในเกมที่ถูกกำหนด ด้วยการประกาศชัดเจนว่าพวกเขาต้องหยุด  3ป. เท่ากับบีบให้ การปรองดองโดย หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้น และดึงให้พรรคเพื่อไทย ย้ายข้างไปจับมือตั้งรัฐบาล แล้วโดดเดี่ยว พรรคก้าวไกล !