ทุกความเคลื่อนไหวทางการเมือง ทั้งในและนอกทำเนียบรัฐบาล ในช่วงปลายสมัยรัฐบาล ของ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ล้วนถูกจับตาและ ถูกนำไปตีความได้ทั้งสิ้น
ทั้งการที่ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองคนดัง ออกมาเดินสายถล่มหนักที่พรรคภูมิใจไทย กระแทกหมัดไปที่ 2กระทรวงในความดูแลของพรรคภูมิใจไทยทั้งกระทรวงคมนาคม และกระทรวงสาธารณสุข ก็ยังถูกโยงว่าเรื่องนี้ มี การเมือง อยู่เบื้องหลัง
ทำเอาบรรยากาศการอยู่ร่วมกันในพรรคร่วมรัฐบาลของทั้งอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กับพล.อ.ประยุทธ์ ไปจนถึงพรรครวมไทยสร้างชาติ เหมือนถูกเขย่า แม้ล่าสุดพล.อ.ประยุทธ์ จะออกมายืนยันแล้วว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่เกี่ยวข้องใดๆกับการเคลื่อนไหวของชูวิทย์
เวลานี้ยังมีอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่หลายคนอยากรู้ และเฝ้าดูว่า ในท่ามกลางการต่อสู้ทางการเมือง เมื่อ พี่น้อง2ป. ต้องอยู่กันคนละพรรคการเมือง เช่นนี้ ความสัมพันธ์ ของทั้งคู่ ยังแนบแน่นเหมือนเดิมหรือไม่ ?
ในการประชุมครม. ครั้งล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำกับสื่อว่า เขาเองยังพูดคุยกับ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เหมือนเดิม
ยังรักเคารพเหมือนเดิมนั่นแหละ วันนี้ใครจะพูดอะไรก็พูดกันไป ใครจะเขียนก็เขียนไปเถอะ จะกี่ร้อยก็ว่าไปเถอะ
ส่วนเมื่อหลังเลือกตั้งไปแล้ว หากพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล จะยังคงมีพรรคพลังประชารัฐ ร่วมด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า
เอาไว้รอให้เลือกตั้งก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยว่ากัน เขาไม่พูดกันตอนนี้หรอก เขาพูดกันตอนเลือกตั้งเสร็จแล้วไม่ใช่หรือ ยังไม่พูดอะไรทั้งนั้นแหละ เรื่องส่วนพรรคก็ส่วนพรรค อยู่ที่การเลือกตั้ง ได้มากน้อยก็ว่ามา แต่การร่วมรัฐบาลเป็นการคุยที่หลังอยู่แล้ว ครั้งที่ผ่านมาตนก็อยู่ในกระบวนการนี้อยู่แล้ว พูดที่หลังหมดไม่ได้มาพูดกันก่อน
แต่ไฮไลท์อยู่ที่คำถามของสื่อกรณีว่าพรรคพลังประชารัฐ ของพล.อ.ประวิตร จะไปจับมือกับพรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ บอกชัดเจนว่า เขาได้สอบถามบิ๊กป้อมแล้ว ก็บอกว่าไม่ได้พูดไม่ได้ไปจับมือกับใคร ท่านก็บอกว่าไม่ได้ไปสัญญาอะไรกับใครไว้ทั้งสิ้น
บนเส้นทางของการต่อสู้ทางการเมือง สำหรับ พี่น้อง 2ป. สัมพันธภาพของทั้งคู่ ยังคงเป็น เงื่อนไข ที่สำคัญ ต่อบริบททางการเมือง ไม่มีเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อวันนี้ทุกพรรคมองข้ามช็อต ไปถึงการจับขั้วตั้งรัฐบาลแล้ว โดยที่ยังมี 2ป. เป็นตัวแปร เช่นเดิม !