ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีนับวันยิ่งรุนแรงขึ้นทุกวัน นอกจากสร้างความสูญเสียให้กับทรัพย์สินแล้วยังมีผู้เสียชีวิต เป็นภัยต่อความมั่นคง

แม้จะมีการเตือนภัยต่างๆ แต่ก็ยังปรากฏว่ามีเหยื่อหลงเชื่อทั้งที่ตกเป็นข่าวและไม่เป็นข่าวจำนวนมาก ที่มิจฉาชีพสรรหากลยุทธมาหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ กลไกหนึ่งที่อยู่ในวงจรของมิจฉาชีพคือบัญชีม้า ที่ส่งผ่านเม็ดเงินจากผู้เคราะห์ร้ายไปยังมิจฉาชีพ           

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า คณะรัฐมตรี ได้มีมติเห็นชอบ ร่างพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมากํากับดูแลและออกนโยบาย และกําหนดว่าลักษณะที่เป็นพฤติกรรมต้องสงสัย ในการโอนเงิน หากเข้าข่ายเป็นพฤติกรรมต้องสงสัย และตรวจพบจะสามารถอายัดบัญชี และหยุดการทําธุรกรรม เพื่อรอการตรวจสอบได้เป็นเวลา 7 วัน ถ้าพบว่าทําถูกต้องตามกฎหมายไม่ใช่มิจฉาชีพก็จะปล่อยให้ สามารถทําธุรกรรมต่อไปได้ แต่หากพบว่าเป็นบัญชีที่มีปัญหา ก็จะสั่งปิดและดําเนินคดี โดยการเพิ่มอํานาจนี้จะทําให้กระทรวงดีอีเอสสามารถป้องกันและแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ได้ทันที

นายชัยวุฒิ กล่าวต่อว่า กฎหมายฉบับดังกล่าว จะช่วยแก้ปัญหาการหลอกลวงออนไลน์รวมถึงอาชญากรรมรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะการระงับยับยั้งการโอนเงินผ่านบัญชีม้า ซึ่งต่อไปผู้ที่รับจ้างเปิดบัญชีม้า จะมีความผิดตามกฎหมาย คือ โทษจำคุก 3 ปี ปรับ 300,000บาท และหากพบว่ามีการใช้บัญชีม้าในการโอนเงินของคนร้าย หรือมิจฉาชีพ จะสามารถอายัดบัญชี และหยุดการโอนเงินทุกบัญชีที่เกี่ยวข้อง ในการโอนต่อไปเป็นทอดๆ ได้ทั้งหมด

ทั้งนี้ นอกจากการปราบปรามแก๊งเปิดบัญชีม้าแล้ว กฎหมายฉบับนี้ยังครอบคลุมถึงเรื่องของซิมม้า โดยการใช้ซิมหรือการติดต่อผ่านมือถือ ต่อไปต้องมีการลงทะเบียนตามที่ กสทช. กําหนด ซิมม้าหรือการนำซิมอื่นมาใช้ ก็จะมีความผิดเช่นเดียวกับการใช้บัญชีม้า จึงขอเตือนประชาชน และคนที่ไปเปิดบัญชี หรือไปลงทะเบียนมือถือให้ผู้อื่นใช้ จะมีความผิด โดยมีโทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 300,000 บาท ซึ่งไม่คุ้มกับที่ไปรับจ้างได้เงินเพียง 500- 2,000 บาท แต่ต้องมาโดนปรับเงินถึง 300,000 บาท และเป็นคดีความด้วย จึงขอเตือนให้พี่น้องประชาชนทุกคนที่ได้กระทำการดังกล่าวไปแล้ว ไปที่ธนาคาร และแจ้งยกเลิกบัญชีที่ท่านไปรับจ้างเปิดไว้ไม่เช่นนั้นอาจจะมีความผิดหนัก หากตรวจพบในภายหลัง

อย่างไรก็ตาม เราเห็นด้วยกับแนวทางในการตัดตอน ตัดวงจรทางการเงินไปสู่ตัวการใหญ่ของมิจฉาชีพ แต่อยากสะกิดผู้เกี่ยวข้องให้จัดการให้ถึงต้นตอ เพราะปัจจุบันบัญชีม้าเติบโตและถูกบริหารจัดการในรูปแบบของบริษัทรับเปิดบัญชีม้าแล้ว หากจัดการทลายตัวบริษัทได้ก็เป็นการตัดไฟแต่ต้นลม