แนวรบที่ฟากฝั่ง พรรคพระแม่ธรณีบีบมวยผม ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะในยามที่กำลังเจอเผชิญหน้ากับ วิกฤต ใช่ว่าจะไม่มี โอกาส !
พรรคพี่ พรรคน้องทั้ง พลังประชารัฐ และ รวมไทยสร้างชาติ พากันเคลื่อนไหว เพื่อเก็บแต้มชิงกระแสกันอย่างคึกคัก ทั้ง บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ว่าที่แคนดิเดตนายกฯของรวมไทยสร้างชาติ ขยับลงพื้นที่ ไปพร้อมๆกับเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร อย่างต่อเนื่อง บุกไปทั้งอีสาน กทม. และภาคใต้
ขณะที่ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะประมุขพรรคพลังประชารัฐ ปรับโทน เปลี่ยนลุคส์ ลงมาพบปะพี่น้องประชาชน สไตล์ง่ายๆ เข้าถึงผู้คนได้ไม่ยาก ล้วนแล้วแต่เป็น เทคนิค ในการหาเสียง กับคนทุกเพศทุกวัยทั้งสิ้น
แต่สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ แล้วต้องยอมรับว่า การเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้ ในวันที่ 7 พ.ค.66 นี้ตามไทม์ไลน์ที่คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) วางกรอบเอาไว้ และล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ ได้ออกมายืนยันแล้วว่า จะเดินตามกรอบของกกต.
ทว่า พรรคประชาธิปัตย์ เองกลับต้องรับมือกับพรรคการเมืองฝั่งตรงข้าม อย่างพรรคเพื่อไทย ประกาศชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ ตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ส่วนประชาธิปัตย์เองยังต้องเจอกับ คู่แข่ง ที่เคยเป็น คนประชาธิปัตย์ ด้วยกันเอง แต่ได้ตัดสินใจ ออกจากพรรค แล้วย้ายไปอยู่พรรคอื่น ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย และโดยเฉพาะพรรครวมไทยสร้างชาติเอง
แต่ล่าสุด ปรากฏว่ามีการส่งสัญญาณ มาจาก จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่าเตรียมดึง 3อดีตหัวหน้าพรรค มาลงสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ และที่สำคัญ จะให้มาช่วยหาเสียง อีกด้วย
3 อดีตหัวหน้าพรรคที่จุรินทร์ ระบุถึง คือ ชวน หลีกภัย ในฐานะประธานสภาที่ปรึกษาพรรค บัญญัติ บรรทัดฐาน และ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค นั่นเอง
การวางกลยุทธ์ ในช่วงเข้าโค้งก่อนเลือกตั้งเช่นนี้ น่าสนใจว่า พรรคประชาธิปัตย์ ย่อมมองเห็น จุดเปลี่ยน ที่จะแปรเป็น อาวุธที่มีอานุภาพมากพอ ทั้งการลบภาพความขัดแย้ง ศึกใน ไปพร้อมๆกับการกระชากเรทติ้งให้ประชาธิปัตย์ จากนี้ไป !