เมื่อเกิดดราม่า “กุน แขมร์” มวยประจำชาติกัมพูชา ที่กลายเป็น “ตัวเร่ง”ให้สังคมกันมาจับตาการขับเคลื่อนให้มวยไทย ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางภูมิปัญญาที่จับต้องไม่ได้

สืบเนื่องจากในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กัมพูชาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ระหว่างวันที่ 5-17 พฤษภาคม กีฬามวย ที่มีการชิงชัยกันมากถึง  17 เหรียญทอง จากปกติเวลาอยู่ในกีฬาซีเกมส์จะใช้คำว่า "มวย" เท่านั้น ซึ่งการดำเนินการจัดการแข่งขันทางสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ (อิฟม่า) เป็น ผู้ให้การรับรองการแข่งขัน

แต่ในส่วนของเจ้าภาพกัมพูชา เปลี่ยนมา "กุน แขมร์" ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับมวยไทยแทนคำว่า "มวย" และยังใช้สหพันธ์กุน แขมร์นานาชาติ เป็นผู้รับรองการแข่งขัน

ทำให้ทาง สหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ (อิฟม่า) ส่งคำเตือนสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยว่าห้ามส่งการแข่งขัน และทางคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยจะไม่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกุนขแมร์ในซีเกมส์ครั้งนี้

จะเป็นเรื่องบังเอิญหรืออย่างไร ที่สถานการณ์ดังกล่าว มาเกิดขึ้นก่อนวันมวยไทย คือ วันที่ 6 กุมภาพันธ์พอดี

ทั้งนี้"มวยไทย" เป็นศิลปะการต่อสู้และการป้องกันตัวของชนชาติไทย มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมล้ำค่า วธ.โดยสวธ.ได้ประกาศขึ้นทะเบียนมวยไทยเป็น มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ สาขากีฬาภูมิปัญญาไทย เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 เพื่อให้มรดกภูมิปัญญานี้ได้รับการยกย่อง ส่งเสริม และเชิดชูให้คนในชาติให้ความสำคัญต่อศิลปะการป้องกันตัวของชาติไทย ได้รับการสืบสาน รักษาพร้อมต่อยอด เป็น soft power พัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้ยั่งยืน และ กระทรวงวัฒนธรรมยังได้ร่วมมือกับภาคเอกชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผลักดันให้มีการสถาปนา "วันมวยไทย" โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบ กำหนดให้วันที่ 6 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันมวยไทย ซึ่งตรงกับวันเสด็จขึ้นครองราชย์สมบัติของสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (พระเจ้าเสือ) พระมหากษัตริย์ไทยที่มีพระปรีชาสามารถด้านมวยไทยเป็นที่ประจักษ์

เราขอเป็นอีกเสียงที่เร่งผลักดันให้เกิดการตกผลึก ในการนำเสนอ “มวยไทย”ให้ขึ้นทะเบียนกับยูเนสโกโดยเร็ว เพื่อศักดิ๋ศรีและความภาคภูมิใจไทยของประเทศชาติ