การเคลื่อนไหวของ พี่ใหญ่  อาจกลายเป็นแรงบีบ ที่ทำให้ น้อง ต้องขยับเกม ไม่เช่นนั้น จะเสียจังหวะการช่วงชิงกระแส ไปอย่างสิ้นเชิง ! 
 มีรายงานว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้จัดส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ไปบ้างแล้ว โดยวางให้ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะสมาชิกพรรค ลงส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับ ที่ 1 ตามมาด้วย พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ในฐานะหัวหน้าพรรค จะลงลำดับที่ 2 
 แม้ก่อนหน้านี้มีการคาดหมายกันแล้วว่า ปาร์ตี้ลิสต์ เบอร์1 ของพรรครวมไทยสร้างชาติ จะต้องเป็นชื่อของบิ๊กตู่ แต่ยังไม่มีความชัดเจน
 

แต่เมื่อ ในวันนี้ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เดินสายลงพื้นที่ตรวจราชการ ไม่เว้นแต่ละวัน ด้วยท่าทีกระฉับกระเฉง อารมณ์ดี ออกพบปะพี่น้องประชาชน จนกลายเป็นการ ทำแต้ม ไปล่วงหน้า 


 ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ก.พ.66 ที่ผ่านมา บิ๊กป้อม ยังยกคณะลุยไป 3จังหวัดในวันเดียวกัน โดยไป ร้อยเอ็ด ยโสธร และมุกดาหาร เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) 


 ไม่ว่าบิ๊กป้อม และบิ๊กตู่ จะเป็น คู่แข่ง ในสนามการเมืองจริงหรือไม่ ความสัมพันธ์ของพี่น้องสายเลือดทหาร จะสั่นคลอนหรือไม่ แต่อย่าลืมว่า เบื้องหลังของทั้ง 2ป. ล้วนแล้วแต่ยังมี นักการเมือง จากกลุ่มต่างๆ ที่เตรียมตัวลงเลือกตั้ง ดังนั้น เมื่อบิ๊กป้อม ขยับ จึงไม่ใช่เรื่องที่ ฟากบิ๊กตู่ จะวางใจ หรือนิ่งเฉย 


 การประกาศตัวลงส.ส.บัญชีรายชื่อ อันดับที่ 1 ของพล.อ.ประยุทธ์ ย่อมเป็นผลทั้งในทาง ดี และ ร้าย ตามมาจากนี้ ! 

 แต่หากประเมินกันในเกมยาว ทั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ และพล.อ.ประยุทธ์ ย่อมเล็งเห็นได้แล้วว่าจะเป็น ดี มากกว่า ร้าย ทั้งในแง่ของการทิ้งภาพเดิมจาก หัวหน้าคสช. มาสู่ นักการเมือง ที่พร้อมจะลงสนาม เล่นในเกมเดียวกันกับ ว่าที่แคนดิเดตนายกฯ ของทุกๆพรรค 

 และผลลัพธ์ในทางที่เป็น บวก จะเกิดขึ้น อย่างไม่ต้องสงสัย นั่นคือการ กระตุกความเชื่อมั่น จากกองเชียร์ ที่เลือกข้าง บิ๊กตู่ให้เชื่อมั่น ว่าสนามนี้ จะเล่นเอง ไม่ใช้สแตนอิน !