เรื่องของการเมือง นั้นมีเหลี่ยมมุมให้ต้องติดตาม และติดตามอยู่เสมอ หลายสิ่งที่มองเห็น ย่อมไม่ใช่ คำตอบ ไปเสียทั้งหมด !
เรื่องราวของ 2ป. พี่น้อง บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่วันนี้พ่วงสถานะ สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ เอาไว้อีกหนึ่งบทบาท กับ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่อบอวลไปด้วยกระแสข่าวอันสืบเนื่องมาจากการชิงกันลงพื้นที่ เดินสายพบปะพี่น้องประชาชน ในพื้นที่จังหวัดเดียวกัน และในวัน เวลาใกล้เคียงกัน ชนิดที่เรียกว่าห่างกันแค่ หายใจรดต้นคอ
ล่าสุดมีรายงานว่าวันเสาร์ที่ 28 ม.ค.นี้ ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร ต่างมีกำหนดการลงพื้นที่ในวันเดียวกันและที่จังหวัดชุมพร เหมือนกันอีกด้วย แน่นอนว่าความเคลื่อนไหวของ 2 ป.ในลักษณะเช่นนี้ซึ่งมีเค้าลาง ความขัดแย้ง อาจกลายเป็น จุดอ่อน ที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามพอใจ และมีความหวังว่าจากนี้ไป ความแข็งแกร่งของ 3ป. ที่เคยมีในวันวานอาจมาถึงทางแยก
แต่อย่าลืมว่าในอีกด้านหนึ่ง น่าสนใจว่า ในท่ามกลางกระแสความขัดแย้ง ที่ถูกจุดขึ้นมาเช่นนี้ยิ่งทำให้ ทั้งบิ๊กป้อมและบิ๊กตู่ อยู่ในโฟกัสสังเวียนการเมือง จนอาจกลายเป็นการปิดพื้นที่ และยึดสนามข่าวทางการเมืองเอาไว้เพียงลำพัง
จะเป็นความขัดแย้งกันจริงหรือไม่ ยังเป็นข้อสมมติฐาน เพราะอย่าลืมว่าทั้งบิ๊กตู่ บิ๊กป้อม และ บิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พี่รอง ยังคงปิดห้องพูดคุยกันตามปกติ ก่อนการประชุมครม. ในทุกวันอังคาร รวมทั้งต่างออกมายืนยัน และย้ำว่าความสัมพันธ์ พี่น้องทหารนั้นยาวนานมากว่า 40 ปียังดีอยู่
ล่าสุดเมื่อวันประชุมครม.ครั้งล่าสุด 24 ม.ค.ที่ผ่านมา แม้ทั้ง 2ป. ต่างตอบคำถามสื่อในลักษณะที่ไม่สบอารมณ์นัก เมื่อถูกจี้ถามเรื่อง ลงพื้นที่ปาดหน้ากันเอง ได้ทำให้พื้นที่สื่อถูกเทน้ำหนักไปที่เรื่องราวของบิ๊กตู่และบิ๊กป้อม ไปโดยปริยาย
แน่นอนว่าสำหรับพรรคการเมืองฝ่ายฝั่งตรงข้าม ขั้วอำนาจ 2ป. ย่อมตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ในแง่ การใช้การตลาดนำการเมือง และยิ่งหากปล่อยให้สนามการเมือง ตกเป็นของบิ๊กตู่ และบิ๊กป้อม ต่อไปเช่นนี้เท่ากับเปิดทางให้พรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพี่พรรคน้อง ยึดบทบาทในฐานะ ตัวนำ ไปอย่างช่วยไม่ได้ !