ถามว่า วันนี้ปัญหาการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งราชการจะหมดไปหรือไม่ หลังจากมีการเปิดโปงการจับกุมครั้งใหญ่เกิดขึ้นที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่เป็นข่าวดึงคึกโครม เชื่อว่าหลายคนมีคำตอบในใจอยู่แล้ว
ทั้งนี้เงินของกลางที่ถูกตรวจพบภายในลิ้นชักโต๊ะทำงานของนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ท่ปรากฏชื่อหน่วยงานต่างๆ บนซองนั้น นายรัชฏาให้การปฏิเสธว่าไม่ใช่เงินที่เรีบกรับสืนบนซื้อขายตำแหน่งจากลูกน้อง แต่เป็นเงินค่าเช่าพระ และเงินทำบุญ โดยเรื่องที่เกิดขึ้นดังกล่าวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
ขณะที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำพยานที่มีรายชื่ออยู่บนซองเงินและพบว่าปัญหากลุ่มพยานที่ยังไม่ยอมมาให้ปากคำ
ส่วนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงในคดีดังกล่าวแล้ว ซึ่งมีกรอบระยะเวลาภายใน 120 วัน แต่ทางปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต้องการให้ตรวจสอบรู้ผลเร็วที่สุด จึงกำหนดกรอบระยะเวลาภายใน 30 วัน
ซึ่งก็เป็นแนวทางที่ถูกต้อง สมควรแล้วในการเร่งผลักดันให้การตรวจสอบเรื่องดังกล่าวมีความกระจ่างโดยเร็ว เพราะ “ความยุติธรรมที่ล่าช้า ก็คือความไม่ยุติธรรม”
ขณะที่หน่วยงานต่างๆเอง ก็ควรตื่นตัวและลุกขึ้นมาอุดช่องโหว่ในเรื่องดังกล่าว เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ไม่ใช่เป็นแบบไฟไหม้ฟาง
โดยเฉพาะความหวังที่ฝากไว้กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่เคยลั่นวาจาบนเวที ““รวมใจ รวมไทยสร้างชาติ”ว่า
“ผมได้รับการสั่งสอน ว่าจะต้องซื่อสัตย์สุจริต ที่ผ่านมาเป็นทหารกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ และผ่านหลักสูตรทหารเสือ มีสัญลักษณ์เสือสองตัวหัวใจอยู่ตรงกลาง ทำไมหัวใจเป็นสีม่วง ไม่เป็นสีแดง เพราะนี้คือหัวใจแห่งความซื่อสัตย์ ความหมายของหัวใจสีม่วงคือ หัวใจคนใกล้ตาย ไม่โกหก ต้องสุจริต ดังนั้นคนใกล้ตาย ไม่โกหก แต่วันนี้ไม่รู้เปลี่ยนแปลงไปรึเปล่า”