การรุกไล่ด้วย กฎหมาย เปิดฉากขึ้น เมื่อ มือกฎหมาย จากพรรคเสรีรวมไทย อย่าง สมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์นโยบายพรรคเสรีรวมไทย จับมือ วีระ  สมความคิด  เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ไปยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้กกต.ตรวจสอบกรณีการจัดประชุมใหญ่ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่
 
งานนี้ทั้งสมชัยและวีระ ยื่นกกต.ให้ตรวจสอบด้วยกันถึง 5ประเด็น คือ 1. การใช้ยานพาหนะ รถบัส หรือรถตู้มากกว่า 100 คัน ขนคนข้ามจังหวัด มาฟังการปราศรัย 
 
2.การแจกเสื้อ หมวก และธง เพื่อใช้ในการปราศรัยและไม่เรียกคืน 3. การจัดมหรสพการนำศิลปินระดับชาติ 4. การปราศรัยของ ไตรรงค์ สุวรรณคีรี สมาชิกพรรครทสช.มีการกล่าวถ้อยคำหยาบคาย รุนแรง พาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ และ5. การจัดประชุมใหญ่วิสามัญของพรรครทสช.ไม่มีการประชุมตามวาระ
 
เมื่อฝั่งตรงข้ามเปิดเกมรุก แรงกดดันจึงเทกลับมาที่ แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติที่เพิ่งเปิดตัวในฐานะพรรคหน้าใหม่ ในสนามเลือกตั้ง  และที่สำคัญ ยังเปิดตัว บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะสมาชิกพรรคคนสำคัญ เพิ่งสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับพรรคการเมืองด้วยกันหลายพรรค ก่อนหน้านี้ 
 
ล่าสุดแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ   ออกมาระบุว่า พร้อมชี้แจงข้อเท็จจริงต่อกกต. ทั้ง ไตรรงค์ สุวรรณคีรี  สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ถูกพาดพิง ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องไม่เป็นเรื่อง  และนี่คือสไตล์การปราศรัยของตนเอง 
 เอกนัฏ พร้อมพันธุ์  เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ  ยืนยันว่าพร้อมชี้แจงต่อกกต. ในการจัดงานเปิดตัวพล.อ.ประยุทธ์ นั้นได้ทำตามกรอบของกฎหมายทุกประการ 
  
ยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับกกต. ในการชี้แจงเรื่องนี้ เพราะเราทำทุกอย่างด้วยความเปิดเผย ไม่ได้ทำอะไรที่ลับๆล่อๆ หรือผิดกฎหมาย และกกต. ก็เข้ามาสังเกตการณ์ตั้งแต่การร่วมประชุม ขณะเดียวกันผมเห็นว่า พรรคการเมืองอื่นก็ทำกิจกรรมกับสมาชิกเหมือนกัน (19 ม.ค.66) 
 
อย่างไรก็ดีปฏิบัติการเตะตัดขา ด้วยการใช้ข้อกฎหมายเป็นเครื่องมือ เพื่อตรวจสอบพรรครวมไทยสร้างชาติ อาจไม่ใช่เรื่องง่ายดาย ที่จะล้มกันง่ายๆ เช่นนี้ !