กระแสที่นักท่องเที่ยวโซนยุโรปยกเลิกการเดินทาง ภายหลังการตั้งกำแพงข้อกำหนดการเดินทางเข้าประเทศไทยที่ต้องแสดงข้อมูลการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม กระทั่งล่าสุดๆได้มีการปรับเปลี่ยนมาตรการ ให้ผู้โดยสารที่อายุมากกว่า 18 ปี ไม่ต้องแสดงข้อมูลการรับวัคซีนครบ 2 เข็ม เพื่อไม่ให้เป็นข้อกีดขวางในการเดินทางท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่กลับมาท่องเที่ยวราชอาณาจักรอีกครั้งภายหลังการเปิดประเทศ ขณะที่ในช่วงตรุษจีน มีสายการบินจากจีนจองตารางบินช่วงเทศกาลตรุษจีน (18-21 ม.ค.2566) รวม 4 วัน มาแล้วประมาณ 386-388 เที่ยวบิน ผู้โดยสารจีนรวมประมาณ 1 แสนคน

ขณะที่นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท.ประเมินว่านักท่องเที่ยวจีนจะทยอยเดินทางออกนอกประเทศในกลุ่มที่มีความพร้อมตามเงื่อนไขของประเทศปลายทาง ประกอบกับข้อจำกัดของจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศ ทำให้จำนวนอาจไม่ได้มากในช่วง 2-3 เดือนแรกของปีนี้ สำหรับประเทศไทย ททท. คาดการณ์ว่าจะมีจำนวนราว 300,000 คน เฉพาะที่เดินทางเข้ามาทางอากาศ โดยปี 2566 ททท. คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 250,000 ล้านบาท

อานิสงส์ของนักท่องเที่ยวจีนที่กระตุ้นภาคท่องเที่ยวของไทยที่เป็นเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทำให้ล่าสุดนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยว่า เดิม สศช.คาดการณ์ว่าปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทย จำนวน 23 ล้านคน สร้างรายได้ 1.2 ล้านล้านบาท แต่สมมติฐานนี้ยังไม่ได้รวมนักท่องเที่ยวจากจีนที่เริ่มเดินทางเข้าไทยตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2566 ดังนั้นจึงขอเวลาดูสถานการณ์นักท่องเที่ยวจากจีนที่เดินทางเข้าไทยก่อนประมาณ 2-3 สัปดาห์ ก่อนจะทบทวนตัวเลขเศรษฐกิจเพิ่มเติมในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2566 จากเดิมคาดการณ์ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไทยในปี 2566 จะขยายตัว 3-4% และทบทวนยอดนักท่องเที่ยวที่เข้าเพิ่มเข้ามาด้วย

“ภาพรวมมองว่าการที่นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาไทยจำนวนมาก จะเป็นผลดีต่อห่วงโซ่ธุรกิจ ทั้งร้านอาหาร ที่พัก และโรงแรมของไทย ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อการฟื้นเศรษฐกิจไทย ดังนั้นจึงอยากจะฝากถึงธุรกิจท่องเที่ยว หลังมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น ก็ขอให้รักษามาตรฐานด้านความปลอดภัย และการทำธุรกิจอย่างตรงไปตรงมา เพราะประเทศไทยมีชื่อเสียงที่ดีอยู่แล้ว อยากให้รักษาเสน่ห์ในส่วนนี้ของไทยไว้ เพื่อให้ชาวต่างชาติกลับมาเที่ยวไทยอีกครั้ง”

เราอยากเพิ่มเติมจาก ความเห็นของเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่ส่งสัญญาณเตือนเรื่องของการรักษาชื่อเสียงของประเทศแล้ว ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย พี่น้องประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ โปรดช่วยกันรักษาทรัพยากรธรรมชาติไม่ให้ถูกทำลาย ด้วยช่วงโควิดที่ผ่านมาธรรมชาติ พืชและสัตว์กลับมาแล้วในระดับหนึ่ง เพื่อที่ธรรมชาติเหล่านี้ จะช่วยต่อลมหายใจให้คนในชุมชน เกิดการจ้างงาน และการกระจายรายได้ อย่างยั่งยืนตลอดไป