ในปี 2565 ที่ผ่านมาถือเป็นปีแห่งการปฏิวัติยานยนต์ไฟฟ้า โดยข้อมูลจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)  มีข้อมูลยอดจดทะเบียนยานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) ในเดือน พ.ย.65 จดทะเบียนใหม่ 2,878 คัน เพิ่มขึ้น 257.07% จากปีก่อนหน้า โดยยอดจดทะเบียนใหม่ ตั้งแต่ม.ค.-พ.ย.65 มีจำนวน 18,135 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า 234.53% ทำให้ยอดจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้าประเภท BEV ณ วันที่ 30 พ.ย. 65 อยู่ที่ 29,402 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 169.40%

โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มองว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ปะเภทไฟฟ้าเติบโตแบบก้าวกระโดดหลังมีมาตรการหนุนจากภาครัฐ ซึ่งในปี 2567 จะมีฐานการผลิตในประเทศ และอีก 4 ปีข้างหน้าคาดว่าราคายานยนต์ไฟฟ้าจะพอๆ กับราคารถยนต์สันดาป

ขณะที่รายงานล่าสุดของ บริษัทวิจัยตลาด Counterpoint ระบุ ไตรมาส 3 ของปี 2565 นี้ไทยมีส่วนแบ่งการตลาดยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV) สูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เกือบ 59.20% รองลงมาคือ อินโดนีเซีย 25.20 % สิงคโปร์ 11.80 % มาเลเซีย 3.10 % เวียดนาม 0.70% และฟิลิปปินส์ 0.02%

ทางด้านยอดจองรถยนต์ EV ภายในงานงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39  หรือ Motor Expo 2022 ที่มีจำนวนสูงถึง 5,800 คัน คิดเป็นสัดส่วน 15.8% จากยอดจองรถยนต์ทั้งหมดที่ 36,679 คัน

แม้ทิศทางการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าจะสดใสในไทย แต่ก็มีความกังวลอยู่บ้าง จากกรณีที่ KPMG บริษัทสอบบัญชีรายใหญ่ของโลก เปิดเผยผลสำรวจผู้นำบริษัทยานยนต์ทั่วโลกจำนวนมากกว่า 900 คน พบว่า 76% มีความกังวลว่าเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงจะกระทบกับธุรกิจในปีหน้า ขณะที่ตัวเลขดังกล่าวยิ่งสูงขึ้นไปอีกในสหรัฐ โดยอยู่ที่ 84%

โดยรายงานระบุว่า เหล่าผู้บริหารด้านยานยนต์ทั่วโลกมีความมั่นใจน้อยลงเกี่ยวกับความแพร่หลายของรถยนต์ไฟฟ้าทั้งในสหรัฐและทั่วโลกในปี 2573 โดยตัวเลขประมาณการยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่ทั่วโลกอยู่ในช่วง 10-40% น้อยลงจากผลสำรวจเมื่อปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 20-70%

อย่างไรก็ตาม กระแสตื่นตัวด้านการใช้พลังงานสะอาด และกระแสรักษ์โลกมาพร้อมกับกระแสการตื่นตัวในการเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ที่ต้องเร่งผลักดันให้กระแสดังกล่าว เดินหน้าไปอย่างจริงจัง มีมาตรการรองรับ ทั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้ครอบคลุม ที่ต้องสนับสนุนให้เข้าถึงแบตเตอรี่ง่ายและราคาถูกลงมากที่สุด เพื่อเป้าหมายตามนโยบาย 30@30 คือการตั้งเป้าผลิตรถ ZEV (Zero Emission Vehicle) หรือรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ ให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดในปี พ.ศ.2573 นำไทยเข้าสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำในอนาคต