ดีเดย์วันที่ 8 มกราคม 2566 ถือเป็นอีกหนึ่งวันที่ไทยและอีกหลายประเทศทั่วโลกจับตา ว่าจะมีปรากฏการณ์สำคัญต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ หลังทางการจีนประกาศเปิดประเทศในวันดังกล่าว

มุมมองของศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองอานิสงส์ของการผ่อนคลายมาตรการของทางการจีน ต่อตลาดการท่องเที่ยวไทยในปี 2566ว่าอาจทำให้มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวในไทยเพิ่มขึ้น 3-4 เท่าตัวจากปี 2565 หรือขยับขึ้นเป็นมากกว่า 1 ล้านคน และตัวเลขอาจจะมากกว่านี้ได้หากเงื่อนไขต่าง ๆ เอื้อต่อการเดินทางมากขึ้นขณะที่ยอดของนักท่องเที่ยวชาวจีนเที่ยวไทย  11 เดือนแรกของปี 2565 อยู่ที่ 219,421 คน จึงคาดการณ์ว่าในสิ้นปี2565น่าจะมีจำนวนกว่า 2.6 แสนคน

โดยแหล่งท่องเที่ยวที่ชาวจีนนิยมเดินทางไป ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดท่องเที่ยวหลัก แต่ในระยะหลังพฤติกรรมนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ก็เริ่มหันมาท่องเที่ยวในเมืองรองตามชุมชนท้องถิ่นในพื้นที่ที่เป็นกระแสนิยมมากขึ้น

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า แม้การผ่อนคลายเงื่อนไขต่างๆ ของทางการจีน จะเป็นสัญญาณบวกต่อภาพการฟื้นตัวของตลาดนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยในระยะข้างหน้า เนื่องจากไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางสำคัญอันดับต้นๆ ที่ชาวจีนนิยมเดินทางมา อย่างไรก็ตาม การกลับมาของชาวจีนเที่ยวไทยยังต้องใช้เวลาเช่นกันกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติหรือกลับไปเท่ากับก่อนเกิดการระบาดของโควิดในปี 2562 ที่มีจำนวนมากกว่า 10 ล้านคน หรือเฉลี่ยมากกว่า 9 แสนคนต่อเดือน

ทั้งนี้ ภาคส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้อง นอกจากภาคท่องเที่ยวที่ต้องเตรียมรับมือกับนักท่องเที่ยวจีน ในแง่ของการท่องเที่ยว บริการและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง หากแต่การเตรียมพร้อมมาตรการด้านสาธารณสุข  มาตรการในการป้องกันและฟื้นฟูทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ยังจำเป็นอย่างยิ่ง

ที่สำคัญคือการเข้มมาตรการป้องกัน ไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะ “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” ซ้ำรอยในอดีต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในช่วงปลายสมัยรัฐบาล ต้องเร่งหามาตรการขึ้นมาป้องกัน หากจะต้องยกร่างกฎมายก็ต้องเร่งทำ เพื่อปกป้องทรัพยากรของประเทศและพัฒนาการท่องเที่ยวไทย เพื่อยกระดับการฟื้นตัวเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน