ยังอรรถาธิบายต่อในช่วงของวิสัชนา จะขอนำท่านผู้อ่านไปติดตามต่อดังนี้

วิสัชนา (ต่อ)

ในเรื่องโรคภัยไข้เจ็บนี้ จะเห็นได้ว่าบางทีโรคเดียวกัน เกิดจากเหตุปัจจัยในกฎต่างกันก็มี หรือปัจจัยในหลายกฎร่วมกันก็มี อย่างโรคแผลในกระเพาะอาหาร อาจเกิดจากปัจจัยฝ่ายอุตุนิยาม เช่นกินเครื่องดื่มหรือยาที่ทำให้เกิดกรดในกระเพาะหรืออาจจะเกิดจากปัจจัยฝ่ายกรรมนิยาม เช่น หงุดหงิด มักโกรธคิดมาก

อย่างอาการปวดศีรษะ อาจเกิดจากปัจจัยฝ่ายอุตุนิยามเช่น อากาศร้อน มีควันมาก อากาศไม่พอ หรืออาจเกิดจากปัจจัยฝ่ายกรรมนิยาม เช่น มีอารมณ์ขุ่นมัวความคิดอกุศลกลุ้มรุม อาจเกิดจากปัจจัยฝ่ายพีชนิยาม เช่น ความบกพร่องทางร่างกายที่สืบต่อมาตามพันธุ์ แต่โดยมากสำหรับมนุษย์เรื่องหนึ่ง ๆจะมีปัจจัยจากหลายกฎประกอบกัน โดยปัจจัยด้านหนึ่งเด่น และปัจจัยด้านอื่นเป็นตัวประกอบ

ชีวิตของมนุษย์มีส่วนประกอบครบทุกอย่าง ไม่มีอะไรที่ครบถ้วนเท่ากับมนุษย์ เพราะฉะนั้นมนุษย์จึงขึ้นอยู่กับทั้ง 5 กฎ แต่ที่เป็นกฎของมนุษย์เต็มที่คือกฎแห่งกรรม เพราะว่ามนุษย์มีเจตจำนง การกระทำของเขาเกิดจากเจตจำนง กรรมเป็นสิ่งที่สัมพันธ์กับมนุษย์มากที่สุดเพราะมนุษย์เป็นเจ้าของเรื่องกฎธรรมชาติข้ออื่นยังขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมบ้าง ปัจจัยภายนอกอย่างอื่นบ้าง แต่กรรมเป็นเรื่องที่มนุษย์เองเป็นผู้สร้างสรรค์ ฉะนั้นมนุษย์จึงจำเป็นต้องเอาใจใส่เรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะมนุษย์เป็นเจ้าของกรรมหรือเจตจำนงนั้น เขาตั้งจิตคิดหมายจำนงจงใจ แล้วก็ทำโน่นทำนี่ พูดนั่นพูดนี่ ฉะนั้นท่านจึงให้ความสนใจพิเศษกับเรื่องกรรม ในฐานะที่เป็นเรื่องของมนุษย์

มนุษย์เป็นเจ้าของกรรม เพราะตัวเป็นผู้ทำ และจะเป็นผู้เปลี่ยนแปลงแก้ไขปรับปรุงในเรื่องกรรมทั้งหมดได้มนุษย์ก็เอากรรมของตัวเองนี่แหละไปสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม สัมพันธ์กับโลกภายนอก สัมพันธ์กับอุตุนิยามพีชนิยาม การกระทำจากเจตจำนงของเขาเป็นเรื่องกรรมทั้งนั้นเลย เพราะฉะนั้นจึงต้องให้ความสำคัญกับกฎแห่งกรรม

อย่างที่กล่าวแล้วว่ากฎแห่งกรรมเป็นกฎหนึ่งในบรรดากฎธรรมชาติ จะถือว่าทุกอย่างเกิดจากกรรมหมดไม่ได้ มีที่ผิดลัทธิหนึ่ง ถือว่าทุกอย่างเป็นเพราะกรรมเก่า อันนี้พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าเป็นลัทธิมิจฉาทิฐิ ชาวพุทธเราบางทีก็หลงเข้าไปในลัทธิกรรมเก่า

พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่ามีลัทธิ 3 ลัทธิที่ผิด ที่ไม่ใช่หลักกรรม คือ ปุพเพกตวาท (ลัทธิกรรมเก่า) อิศวรนิรมิ(ลัทธิเทพบันดาล) และอเหตุวาท (ลัทธิแล้วแต่โชค) ซึ่งได้เคย อธิบายมาครั้งหนึ่งแล้ว

กฎแห่งกรรมเป็นกฎแห่งความเป็นเหตุเป็นผล ไม่ใช่เฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่ง คือกรรมไม่ใช่เพียงกรรมเก่า กรรทเก่าเป็นเพียงปัจจัยในส่วนที่ผ่านไปแล้ว อย่างเรามีชีวิตอยู่ในปัจจุบันนี้ก็ถือว่าเป็นผลรวมของกรรมเก่า สิ่งที่เราจะทำได้ปัจจุบันคือกรรมใหม่ ซึ่งอยู่ในอำนาจของเรา เป็นสิ่งที่ท่านเน้นเป็นพิเศษ ถ้าใครปรารภว่ามันก็แล้วแต่กรรมเก่าก็ปล่อยชีวิตไป มีความคิดผิด เพราะ หนึ่ง ไปถือลัทธิกรรมเก่า ยึดถือเพียงส่วนเดียวของกรรม ในแง่ความรู้ความเข้าใจความคิดเห็นไม่ถูกต้อง

(อ่านต่อฉบับหน้า)