ปัญหาเลือดไหลออก ที่เกิดขึ้นในพรรคพลังประชารัฐอาจยังไม่จบตามรายชื่อที่ปรากฎตามสื่อ อย่างเป็นทางการที่ลาออกจากการเป็นส.ส.และเตรียมไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยในวันนี้ เท่านั้น แต่ดูเหมือนว่า บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กลับไม่ได้ ออกอาการ อย่างใดอย่างหนึ่ง 

 เช่นเดียวกับ บรรดาแกนนำพรรคพลังประชารัฐเอง ทั้งวิรัช รัตนเศรษฐ  แม่ทัพสายตรง ยังแสดงความั่นใจว่าสถานการณ์ของพรรค ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะตัวพล.อ.ประวิตร ที่วันนี้ยังร้องเพลง ยังยิ้มได้  เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณว่า ไม่ทุกข์ร้อน กับความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น 

 หรือแม้แต่การที่ มีส.ส.ในสายกทม. ของพรรค พากันตบเท้าลาออก ก็ยังไม่ใช่ปัญหาใหญ่  แต่อย่างใด คล้ายกับว่า พรรคพลังประชารัฐ นั้นมีแผนการเล่น เตรียมการรองรับเอาไว้อยู่แล้ว 
 มีรายงานความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจว่า ในราวปลายปีนี้ไปจนถึงต้นเดือนม.ค. 66  ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย ในสังกัด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ในฐานะแม่ทัพตัวจริง เตรียมพากันย้ายเข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐ โดยมีภารกิจอยู่ที่การทำส.ส.ในพื้นที่ภาคเหนือ 
 
ขณะที่ในโซนอีสาน นั้นบิ๊กป้อม ส่งมือทำงาน อย่าง บิ๊กแป๊ะ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา  ลงไปลุยงานมาล่งหน้าเป็นปีๆ 

 ดังนั้นหมายความว่า แนวรบในพื้นที่กทม. อาจไม่ใช่ เป้าหมาย สำหรับพรรคพลังประชารัฐ ส่วนจะเป็นกลยุทธ์เพื่อเปิดพื้นที่ เอาไว้กับ พันธมิตร ทางการเมือง ต่างพรรค เพื่อพากันเดินไปสู่การเป็นพรรครัฐบาล 


 อย่างไรก็ดี การเปิดพรรครับส.ส.เศรษฐกิจไทย รวมถึงการรับไมตรีจากทุกขั้ว ทุกฝ่าย จากมือประสานระดับบิ๊กป้อม นั้นเพื่อต้องการสกัด แลนด์สไลด์  ของพรรคเพื่อไทย ไม่ให้ไปถึงเป้าหมายตามที่หวัง


 และย่อมหมายความว่า บรรดากลุ่มการเมืองที่เคยมีข่าวว่าจะไปจากพรรคพลังประชารัฐ อย่าง กลุ่มสามมิตร ของ สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม นั้นอาจเป็น โครงการที่ต้องพับเก็บเอาไว้ก่อน เมื่อประเมินแล้วว่า การไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย ย่อมไม่ใช่คำตอบ โดยเฉพาะโจทย์ที่ว่า หากไปแล้ว กลุ่มสามมิตร จะไปอยู่ตรงไหน จะลงส.ส.เขตหรือเข้าคิวปาร์ตี้ลิสต์กันอย่างไร 

 แต่หากเลือกอยู่ต่อ กับบิ๊กป้อม ที่พรรคพลังประชารัฐ ยังเป็นการการันตีว่า กลุ่มสามมิตรมี ที่ยืน โดยไม่ต้องแย่งชิงกับใครที่พรรคเพื่อไทย เพราะหากเทียบกับในรายชอง สุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ซึ่งมีข่าวมาตลอดว่า ไปแน่ ก็ยังไม่ความชัดเจนว่า สุชาติ จะกุมสภาพที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ของตัวเองเอาไว้ได้ 

 ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ต้องแปลกใจที่จะพบว่า ทำไม บิ๊กป้อม จึงไม่จำเป็นต้องทุกข์ร้อน ไปกับจังหวะการเมืองในเวลานี้ !