ระดับ พรรคภูมิใจไทย เมื่อไม่มั่นใจ คงไม่เดินเกมแรง อย่างที่เห็น !
แม้ที่ผ่านมา เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดไต๋ถึง จำนวน ส.ส.ต่างพรรคการเมือง ที่เตรียมย้ายเข้ามาสังกัดกับพรรคภูมิใจไทย ไม่บ่อยนัก แต่ดูเหมือนว่าทุกคนต่างรับรู้กันดีว่า พรรคภูมิใจไทยเวลานี้ ไม่ต่างจาก สนามแม่เหล็ก ดึงดูด ส.ส.ทั้งจาก ฝ่ายค้าน ไม่เว้นแม้แต่ พรรครัฐบาล ด้วยกันเอง
มีรายงานข่าวหลายวันที่ผ่านมาชี้เป้าว่า ในวันที่ 16 ธ.ค.65 พรรคภูมิใจไทย จะเปิดที่ทำการพรรคใหม่ ภายหลังจากที่ปิดเพื่อรีโนเวทกันก่อนหน้านี้นานถึง 8เดือน แต่งานนี้ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่การเปิดตัว บรรดาส.ส.ต่างพรรค ที่จะมาเปิดตัวในฐานะ สมาชิกใหม่ รวม 37 คนจากพรรคพลังประชารัฐ พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อชาติ พรรคชาติพัฒนา พรรครวมพลัง พรรคเศรษฐกิจไทย พรรคประชาภิวัฒน์ นอกจากนี้ยังมีส.ส.ที่อยู่ระหว่างการดีล เจรจาใน ทางลับ อีกประมาณ 5-6 คน
แม้วันนี้การตัดสินใจของ บรรดาส.ส. กว่า 40 ชีวิตยังมีเงื่อนไขที่ต้องการ รอเวลา ยังไม่เปิดตัวเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยทั้งหมด เนื่องจากต้องการรอไปหลังปีใหม่ และต้องการรักษาสถานะ ส.ส.เพื่อคงเสียงในสภาฯให้ครบองค์ประชุม ในการพิจารณาร่างกฎหมายสำคัญ ก็ตาม
แต่ถึงกระนั้นสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เป็นการดี สำหรับ พรรคร่วมรัฐบาล อย่างพรรคพลังประชารัฐ ที่จะกระทบมากกว่าใครเพื่อน !
การอยู่ร่วมกันในช่วงปลายสมัยรัฐบาล และเริ่มเข้าสู่โหมดของการนับถอยหลังที่จะหมดวาระในเดือนมี.ค.ปีหน้า 2566 อาจทำให้ไม่มีน้ำหนักมากพอที่ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะพรรคร่วมรัฐอันดับ 2 ต้อง เกรงอกเกรงใจ กันอีกต่อไป
นอกจากนี้สิ่งที่เกิดขึ้นยังอาจกลายเป็น สัญญาณ ที่บ่งชี้ว่า เหตุใด พรรคภูมิใจไทยได้รับผลกระทบจากกระแส กัญชาเสรี นโยบายชิ้นโบว์แดง ที่กำลังถูกถล่มอย่างหนักและต่อเนื่อง แต่อย่างใด
วันนี้เป้าหมายของพรรคภูมิใจไทย ย่อมใหญ่กว่าการเป็นพรรคการเมืองที่เข้าร่วมรัฐบาล หรืออยู่ในฐานะ พรรคอันดับหนึ่ง อันดับสองเท่านั้น
หากแต่ ตลอด4ปีที่ผ่านมานี้ ภูมิใจไทยเรียนรู้แล้วว่า การเป็น พรรคแกนนำรัฐบาล นั้นย่อมยังประโยชน์และไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินกว่าจะเดินไปให้ถึง !