เสือตัวที่ 6

เป็นที่ยืนยันแน่ชัดแล้วว่ากลุ่มต่อต้านอำนาจรัฐ เพื่อแยกตัวเป็นอิสระในการปกครองกันเองในพื้นที่ปลายด้ามขวานที่เรียกตัวเองว่า กลุ่ม BRN กำลังขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เดินสองขาอย่างเข้มข้น เพื่อบรรลุเป้าหมายสุดท้ายของขบวนการแห่งนี้ นั่นคืออิสระการปกครองกันเองของคนในพื้นที่ในรูปแบบที่กลุ่มตนต้องการ โดยแกนนำขบวนการระดับนักคิดได้ผลิตชุดความรู้หรือชุดความคิดเพื่อต่อสู้ทางความคิดในทุกเวทีที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเวทีพูดคุยสันติสุขหรือเจรจาสันติภาพในระดับตัวแทนของรัฐ หรือจะเป็นเวทีสาธารณะทั่วไปทั้งในระดับพื้นที่และระดับนานาชาติผ่านองค์กรเอกชน (NGO) และองค์กรระหว่างประเทศอย่างเป็นระบบ โดยที่ชุดความรู้หรือชุดความคิดเหล่านั้นของขบวนการแห่งนี้ได้ถูกสรรค์สร้างมาจากนักคิดระดับนำของขบวนการเพื่อสร้างวาทะกรรมอันมีน้ำหนัก เต็มไปด้วยตรรกะน่าเชื่อถือ

ความพร้อมในการส่งผ่านวาทะกรรมชุดความคิดเหล่านั้นไปยังทุกเวทีข้างต้นอย่างสอดประสาน ทั้งยังก้าวนำการต่อสู้ทางความคิดกับกลุ่มคนของรัฐได้ในทุกเวทีอย่างทรงพลังยิ่ง นั่นคือการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ขาข้างหนึ่งซึ่งเป็นยุทธศาสตร์การต่อสู้ทางความคิดของขบวนการแบ่งแยกดินแดนที่ฝ่ายรัฐยังแสวงหาหนทางในการก้าวให้ทันการต่อสู้ทางความคิดของขบวนการได้ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร การต่อสู้ทางความคิดที่ฝ่ายขบวนการใช้เป็นขาข้างหนึ่งของยุทธศาสตร์เดินสองขาของพวกเขามีความเข้มแข็งและเต็มไปด้วยเหตุผลตรรกะทางประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์ที่ถูกส่งผ่านมาทางความเชื่อทางศาสนาอย่างกลมกลืนจนยากที่ฝ่ายรัฐจะเข้าไปโต้แย้งหรือให้เหตุผลในแง่มุมอื่นๆ ได้อย่างมีน้ำหนัก

วาทะกรรมชุดความคิดข้างต้นถูกส่งผ่านสู่สาธารณะครั้งแล้วครั้งเล่า อาทิ บุคคลหนึ่งที่มีบทบาทบนโต๊ะการเจรจาสันติภาพ เขากล่าวตอนหนึ่งว่า เพราะเหตุใดอัลกุรอานและซุนนะห์จึงเป็นแหล่งอ้างอิงสำคัญที่สุดของ BRN กล่าวคือ สิ่งที่อยู่เหนือกว่า BRN ในเชิงโครงสร้างหรือเหนือกว่าหน่วยเหนือใดๆ ทั้งสิ้น หรือเหนือกว่าผู้นำขององค์กรนำทั้งหมดก็คืออัลกุรอานและซุนนะห์ นั่นเอง และเมื่อใดที่มีการขัดแย้งกันในหมู่สูเจ้า พวกเจ้าจงหันกลับไปยังอัลกุรอานและซุนนะห์ หากว่าพวกเจ้าศรัทธาต่ออัลลอฮและวันแห่งโลกหน้า ทุกความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจึงควรกลับไปยังอัลลอฮและรอซูลอัลกุรอานและซุนนะห์ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือจะต้องลบล้างความรู้สึก Racialism (การเหยียดเชื้อชาติ) ให้จงได้ ซึ่งความรู้สึกแบบนี้มาจากความคลั่งไคล้สุดโต่งในกลุ่มชาติพันธุ์ของตัวเองจนเกินไปเบียดเบียนหยามเหยียดกลุ่มชาติพันธุ์อื่น บุคคลท่านนี้ยังอ้างว่า ทุกความขัดแย้งล้วนแล้วมาก Racialism(การเหยียดเชื้อชาติ)

แกนนำขบวนการแห่งนี้ยังสรุปสาระสำคัญอย่างน่าสนใจว่าการต่อสู้ทางความคิดกับรัฐผ่านกระบวนการเจรจาสันติภาพจะประสบความสำเร็จไม่ได้ หากปราศจากการมีส่วนร่วมให้การสนับสนุนจากทุกภาคส่วนโดยเฉพาะจากประชาชนในพื้นที่อย่างเป็นเอกภาพ และการร่วมกันสืบทอดเจตจำนงการต่อสู้ของหมู่สูเจ้าทั้งหลายอย่างทรงพลัง ดังอัลกุรอานกล่าวไว้ว่า จงร่วมกันสนับสนุนเถิดในสิ่งที่เป็นความดีงามทั้งหลาย ซึ่งหากพิจารณาข้อความตามวาทะกรรมข้างต้นนี้หาได้ชี้ชัดถึงความดีงามที่ขบวนการกำลังเรียกร้องการสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ในที่นี้ว่าคือการต่อสู้เพื่อเอกราชแต่อย่างใด แต่กระนั้น วาทะกรรมดังกล่าวก็ได้สร้างความเห็นต่างจากรัฐมากขึ้นเรื่อยๆ ในหมู่พี่น้องประชาชนในพื้นที่เป็นวงกว้าง และแน่นอนว่า สิ่งเหล่านี้ จะเป็นการสร้างความเข้มแข็งในการขับเคลื่อนการต่อสู้ทางความคิดด้วยชุดความรู้ที่ถูกสร้างมาอย่างเป็นระบบและต่อเนื่องเพื่อความพร้อมที่จะต่อสู้ทางความคิดในทุกเวทีและทุกโอกาสที่เกิดขึ้น อันเป็นขาข้างหนึ่งของยุทธศาสตร์เดินสองขาของขบวนการแบ่งแยกดินแดนแห่งนี้ที่ทรงพลังยิ่ง

ควบคู่กับการต่อสู้ด้วยอาวุธอย่างเข้มข้นกับรัฐ อันเป็นยุทธศาสตร์เดินสองขาอีกด้านหนึ่งที่ขบวนการยังคงใช้เป็นแนวทางให้ได้มาซึ่งอิสระในการปกครองกันเองของคนในพื้นที่แห่งนี้อยู่ต่อไปอย่างเข้มข้น แม้ว่าจะหลอกล่อด้วยประกาศตามความเห็นร่วมกับผู้แทนฝ่ายรัฐในเวทีการพูดคุยสันติสุขที่ผ่านมาเพื่อแสดงความตั้งใจจริงในการแสวงหาสันติภาพให้เกิดขึ้นในพื้นที่แห่งนี้ว่า กลุ่ม BRN ตกลงที่จะลดการปฏิบัติการทางทหารลงให้เป็นรูปธรรมโดยเฉพาะในช่วงที่กระบวนการพูดคุยสันติสุขกำลังเดินหน้าไป โดย การลอบวางระเบิดขนาดใหญ่ก่อเหตุร้ายติดๆ กันถึงสองครั้ง สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมาก และล่าสุดขบวนการร้ายแห่งนี้ได้ลอบวางระเบิดรถไฟขบวนรถสินค้าที่ 707 (ชุมทางหาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์) ซึ่งบรรทุกยางพารา ตกราง 10 ตู้ เหตุเกิดในพื้นที่ ต.ท่าโพธิ์ อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมา เพื่อต้องการทำลายความเชื่อมั่นด้านความมั่นคงของรัฐ หนุนเสริมการเจรจาสันติสุขในกระบวนการต่อสู้ทางความคิดให้รัฐยอมจำนนตามเป้าหมายที่ขบวนการต้องการ        

ปรากฏการณ์นี้ชี้ชัดว่ากลุ่มขบวนการร้ายแห่งนี้ ยังคงใช้ยุทธศาสตร์เดินสองขา ใช้การเจรจาพูดคุยต่อสู้ทางความคิดไป สู้รบไปอย่างเข้มข้น ดังนั้น หนทางที่หน่วยงานภาครัฐควรตระหนักและเร่งรัดขับเคลื่อนให้ทันกับย่างก้าวในการต่อสู้ครั้งนี้คือ เร่งแสวงหาชุดความคิดหรือชุดความรู้ที่จะใช้ในการต่อสู้ทางความคิดกับชุดความคิดของขบวนการอย่างเข้มแข็งและเป็นเอกภาพ พร้อมที่จะใช้ชุดความรู้หรือชุดความคิดเหล่านี้ในทุกเวทีและทุกโอกาสที่เกิดขึ้น ควบคู่กับการเร่งพัฒนาทักษะการต่อสู้ด้วยอาวุธกับขบวนการในเชิงยุทธศาสตร์มากกว่าการต่อสู้ในการป้องกันไล่ล่าทางยุทธวิธี เพราะนี่คือหนทางแห่งความสำเร็จของรัฐ ด้วยการโต้กลับยุทธศาสตร์เดินสองขาของขบวนการที่มีความสมน้ำสมเนื้อ