เอฟเฟกซ์จากสูตร หาร100 กำลังออกฤทธิ์ เนื่องจากแทบทุกพรรคการเมือง ต่างพากัน ปรับแผนการต่อสู้ในสนามเลือกตั้งกันจ้าล่ะหวั่น ! สถานการณ์ของ พรรคเล็ก ต้องถือว่า ไม่สู้ดีนัก เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว นพ.ระวี มาดฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ คงไม่ออกมาเปิดเผยว่าเวลานี้เขาเองได้ประสานไปยังพรรคการเมืองขนาดเล็ก ราว 20 พรรค ทั้งที่เป็นพรรคที่มีส.ส.ในสภา และไม่มีส.ส. ถึงการทำงานร่วมกัน
ทั้งนี้นพ.ระวีให้เหตุผลว่า หลังจากที่สูตรคำนวณ ส.ส. จะใช้จำนวน 100 คนหาค่าเฉลี่ยส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่จะส่งผลให้พรรคเล็กสูญพันธุ์เกือบหมด เพราะคะแนนที่จะได้ 3.7แสนคะแนนต่อส.ส. 1 คนนั้นได้มาไม่ง่าย ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา การดิ้นสู้เพื่อหาทางรอดสำหรับพรรคการเมือง ยังไม่ได้มีขึ้นเฉพาะกับพรรคเล็กเท่านั้น แต่ยังน่าสนใจว่า เวลานี้ยังพบว่า พรรคการเมืองแบรนด์ใหม่ แต่มี นักการเมืองหน้าเก่า พากันไปตั้งพรรค ทั้งที่แยกออกมาจากฟากพรรคฝ่ายค้าน อย่างพรรคเพื่อไทย เองที่มี คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตแม่ทัพกทม. เพื่อไทย พาลูกทีมออกมาตั้งพรรคไทยสร้างไทย หรือพรรคชาติพัฒนาที่มีคนจาก พรรคกล้า เข้ามาหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน ในนาม พรรคชาติพัฒนากล้า
รวมถึง กลุ่มสี่กุมาร ที่เคยทำงานกับรัฐบาล บิ๊กตู่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้พากันตั้งพรรคในนาม สร้างอนาคตไทย ชู ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ ขึ้นเป็นแคนดิเดตนายกฯ จังหวะการก้าวเดินของ 3พรรค ที่มีคีย์แมนการเมือง ระดับ บิ๊กเนม เป็นตัวขับเคลื่อน จนทำให้มีที่มาของความเคลื่อนไหวในลักษณะที่ว่า ขั้วที่สาม อาจมีลุ้นได้จับมือกัน ตั้งรัฐบาล ครั้งหน้า
โดยฉีกออกไปจาก 2ขั้วใหญ่ ทั้ง ขั้วพรรคเพื่อไทย และขั้วของ 3ป. โดยก่อนหน้านี้มี พรรคพลังประชารัฐ ของ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นตัวขับเคลื่อน โดยในครั้งนั้นมีรายงานข่าวเรียกเสียงฮือฮาทางการเมืองว่า 3 ส. จะสู้กับ 3ป. นั่นคือ ส.สมคิด , ส.สุดารัตน์ และ ส.สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนากล้า จาก 3ส. จนเหลือเพียง 2ส. คือสมคิดกับสุดารัตน์ แต่จนวันนี้ดูเหมือนว่า โอกาสและความเป็นไปได้ในการจับมือร่วมกัน เพื่อผลักดันการเมือง ขั้วที่สาม อาจเกิดขึ้นได้ยาก ทั้งด้วย ปัญหาภายใน ของแต่ละพรรคที่จะมาจับมือร่วมกัน ย่อมเกิดปัญหา ว่าแล้วพรรคจะชู ใคร ขึ้นเป็น แคนดิเดตนายกฯ การจัดสรร ผู้สมัคร ลงรับเลือกตั้งในแต่ละพื้นที่ จะแก้ปัญหาทับซ้อนกันอย่างไร และเหนืออื่นใด การส่ง น้ำเลี้ยงเพื่อดูแล ในพื้นที่ต่างๆ ใครจะเป็นฝ่ายรับผิดชอบ ?
สถานการณ์ ภายใน ของหลายพรรคการเมืองที่หวังจับมือปั้นสูตร ขั้วที่สาม กำลังอยู่ในภาวะ ชะงักงัน และยากจะ ไปต่อ และจากนี้อาจได้เห็นการย้ายพรรค ที่สับสนอลหม่านกันตามมา โดยเฉพาะบรรดา แกนนำการเมือง ที่เคยประกาศตัวสวมเสื้อพรรคหน้าใหม่ ที่ปลุกกระแสกันไม่ขึ้น ในเร็วๆนี้ตามมา